ความเคร่งครัดในศาสนา
ไม่ใช่ความสุดโต่ง
ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ความเข้าใจผิดที่ว่า "มุสลิมที่เคร่งครัดในหลักศาสนา"
คือผู้ที่มีแนวโน้มสุดโต่งหรือชอบความรุนแรง กลายเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับพี่น้องมุสลิมในหลายพื้นที่
ซึ่งแท้จริงแล้ว ความจริงตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
มุสลิมที่ยึดมั่นในหลักการศาสนาอย่างเคร่งครัด
คือบุคคลที่ดำรงอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมอันมั่นคง พวกเขาเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
(อัลเลาะห์) ผู้ทรงฤทธานุภาพ และหวังเพียงในความเมตตาและรางวัลในโลกหน้า
ไม่ใช่ยศฐาบรรดาศักดิ์หรือเกียรติยศในโลกดุนยา การเกรงกลัวอัลเลาะห์ ทำให้เขาหลีกเลี่ยงความผิด
ไม่ทำร้ายใคร ไม่หลอกลวง และไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจากการเบียดเบียนผู้อื่น
ในทางตรงกันข้าม
คนที่ขาดศีลธรรม ปล่อยตัวตามกิเลส ละเลยการละหมาด ไม่ถือศีลอด
และไม่ปฏิบัติตามหลักศาสนา คือผู้ที่ไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
และเมื่อคนผู้นั้นไม่เกรงกลัวแม้แต่พระเจ้าผู้ทรงสร้าง
ย่อมไม่เกรงกลัวต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยเช่นกัน คนเช่นนี้ง่ายต่อการทรยศ โกหก หลอกลวง และทำลายความไว้วางใจในสังคม
ดังนั้น
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและหน่วยงานของรัฐควรพิจารณามุมมองใหม่ : "ผู้ที่ดำรงชีวิตตามหลักศาสนาอย่างครบถ้วน
คือพันธมิตรสำคัญในการสร้างสันติสุข"
พวกเขาไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม
ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือผู้ที่มีหัวใจมั่นคงในความดี
เป็นรากฐานของสังคมที่สงบสุขอย่างแท้จริง
การไปกดดันหรือมองผู้ที่ยึดมั่นในหลักศาสนาด้วยสายตาแห่งความหวาดระแวง
มีแต่จะผลักไสผู้ที่ควรเป็นพันธมิตรให้กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามโดยไม่จำเป็น นำไปสู่การขาดผู้นำที่แท้จริง
ขาดผู้รู้ที่สามารถชี้ทางสันติภาพได้ และท้ายที่สุดความสงบสุขที่แท้จริงก็จะยังคงเป็นเพียงความฝันที่ไกลเกินเอื้อม
การเปลี่ยนมุมมองจึงไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบาย
แต่เป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน
เพื่อร่วมกันเดินสู่หนทางแห่งสันติภาพอย่างยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น