วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ความเคร่งครัดในศาสนา ไม่ใช่ความสุดโต่ง

ความเคร่งครัดในศาสนา ไม่ใช่ความสุดโต่ง

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ความเข้าใจผิดที่ว่า "มุสลิมที่เคร่งครัดในหลักศาสนา" คือผู้ที่มีแนวโน้มสุดโต่งหรือชอบความรุนแรง กลายเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างระยะห่างระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับพี่น้องมุสลิมในหลายพื้นที่ ซึ่งแท้จริงแล้ว ความจริงตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

มุสลิมที่ยึดมั่นในหลักการศาสนาอย่างเคร่งครัด คือบุคคลที่ดำรงอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมอันมั่นคง พวกเขาเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า (อัลเลาะห์) ผู้ทรงฤทธานุภาพ และหวังเพียงในความเมตตาและรางวัลในโลกหน้า ไม่ใช่ยศฐาบรรดาศักดิ์หรือเกียรติยศในโลกดุนยา การเกรงกลัวอัลเลาะห์ ทำให้เขาหลีกเลี่ยงความผิด ไม่ทำร้ายใคร ไม่หลอกลวง และไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจากการเบียดเบียนผู้อื่น

ในทางตรงกันข้าม คนที่ขาดศีลธรรม ปล่อยตัวตามกิเลส ละเลยการละหมาด ไม่ถือศีลอด และไม่ปฏิบัติตามหลักศาสนา คือผู้ที่ไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า และเมื่อคนผู้นั้นไม่เกรงกลัวแม้แต่พระเจ้าผู้ทรงสร้าง ย่อมไม่เกรงกลัวต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยเช่นกัน คนเช่นนี้ง่ายต่อการทรยศ โกหก หลอกลวง และทำลายความไว้วางใจในสังคม

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและหน่วยงานของรัฐควรพิจารณามุมมองใหม่ : "ผู้ที่ดำรงชีวิตตามหลักศาสนาอย่างครบถ้วน คือพันธมิตรสำคัญในการสร้างสันติสุข"

พวกเขาไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือผู้ที่มีหัวใจมั่นคงในความดี เป็นรากฐานของสังคมที่สงบสุขอย่างแท้จริง

การไปกดดันหรือมองผู้ที่ยึดมั่นในหลักศาสนาด้วยสายตาแห่งความหวาดระแวง มีแต่จะผลักไสผู้ที่ควรเป็นพันธมิตรให้กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามโดยไม่จำเป็น นำไปสู่การขาดผู้นำที่แท้จริง ขาดผู้รู้ที่สามารถชี้ทางสันติภาพได้ และท้ายที่สุดความสงบสุขที่แท้จริงก็จะยังคงเป็นเพียงความฝันที่ไกลเกินเอื้อม

การเปลี่ยนมุมมองจึงไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบาย แต่เป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน เพื่อร่วมกันเดินสู่หนทางแห่งสันติภาพอย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น