วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565

บิ๊กโจ๊ก แถลงจับแก๊งไอ้โม่งลิง ตระเวนลักเจาะเซฟทั่วไทย 7 ปีกวาด 50 ล้าน

👮‍♂👮‍♂“บิ๊กโจ๊ก” แถลงจับ 2 จอมโจร “แก๊งไอ้โม่งลิง” ตระเวนลักเจาะเซฟทั่วไทย 7 ปีกวาด 50 ล้าน

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปิดฉาก 2 จอมโจรอ้วนผอม “แก๊งไอ้โม่งลิง” ก่อคดีลักทรัพย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ใต้สุดยันเหนือสุดแดนสยาม ตลอด 7 ปี 25 คดีได้เงินสด และทรัพย์สินไปประมาณ 50 ล้านบาท เผยเน้นเจาะตู้เซฟมากสุดครั้งเดียวกวาดไป 21 ล้านบาท

เมื่อ 16 ก.ย.65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุม นายสมพร พุฒขวัญ อายุ 44 ปี ชาว จ.สตูล และนายวสันต์ ตั้งธนภิญโญกูล อายุ 39 ปี ชาว อ.เบตง จ.ยะลา สองจอมโจรอ้วนผอม “แก๊งไอ้โม่งลิง” ที่ก่อเหตุลักทรัพย์หลายจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ใต้สุดแดนสยาม อ.เบตง จ.ยะลา จนถึงเหนือสุดแดนสยาม จ.เชียงราย รวม 25 คดี ในช่วงเวลา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2559 จนถึง 2565 กวาดทรัพย์ทั้งเงินสด และทรัพย์สินไปประมาณ 50 ล้านบาท โดยแทบไม่ทิ้งหลักฐานหรือร่องรอยให้สืบสวนติดตามจับกุมได้ โดยทั้ง 2 คนถูกตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สตูล ร่วมกันจับกุมได้ หลังจากที่พยายามสืบสวนรวบรวมหลักฐานมาเกือบ 1 ปีเต็ม

ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภาค 9 และชุดปฏิบัติการที่นำโดย พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.สินชัย คล่องแคล่ว ผกก.สส.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ดุลเดช สันดาเส็น ผกก.สภ.ควนกาหลง, พ.ต.ท.เอกภพ มุสิปักษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.ท.เกริกชาย ฉันทจิตร รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งลุง

โดยนายสมพรถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 11 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล ส่วนนายวสันต์ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านแกรนด์วิลล่า 3 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุลักทรัพย์ และทรัพย์สินที่ยึดคืนมาได้บางส่วนรวม 19 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซู ทะเบียน ผฉ 5771 สงขลา 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน 1 คัน หมวกโม่งลิง 15 อัน ถุงมือผ้ายาว 7 คู่ รองเท้าหุ้มส้นแบบสตั๊ดดอย สีดำ 6 คู่ กระเป๋าเป้ 5 ใบ ไฟฉายแบบคาดศีรษะ 3 อัน ชะแลงเหล็กยาว 2 อัน ไขควง 3 ด้าม กรรไกรตัดเหล็ก 5 อัน เครื่องเจียร์ไฟฟ้า 3 ตัว ฆ้อน 3 ด้าม เลื่อยตัดเหล็ก 1 คัน ใบเลื่อย 16 แผ่น คีม 2 อัน เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ขณะก่อเหตุบางส่วน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง นาฬิกาหรู 8 เรือน มูลค่า 3 ล้านบาท และน้ำหอม 3 ขวด

โดยในทางการสืบสวนที่มีหลักฐานชัดเจน พบว่าในช่วง 7 ปี จอมโจรอ้วนผอมแก๊งไอ้โม่งลิงคู่นี้ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาอย่างโชกโชนในพื้นที่ 6 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา 2 ครั้ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 3 ครั้ง พื้นที่ จ.สตูล 9 ครั้ง จ.สุพรรณบุรี 2 ครั้ง จ.พะเยา 2 ครั้ง จ.ลำปาง 1 ครั้ง และ จ.เชียงราย 6 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการเจาะเซฟถึง 17 คดี

โดยเคสที่ได้ทรัพย์สินไปมากที่สุด คือที่หมู่บ้านปาล์มสปริง อ.หาดใหญ่ กวาดทรัพย์สินทั้งเงินสด และของมีค่าไปกว่า 21 ล้านบาท เหตุเกิดระหว่างวันที่ 13-28 พฤศจิกายน 2563 และย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งรอบ 2 ที่บ้านหลังเดิม เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2565 แต่ไม่ได้อะไรไป อีกเคสคือที่ร้านสำเพ็งหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ได้เงินสด และของมีค่าไปราว 6 ล้านบาท และอีกเคสที่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 6 ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เงินสดและทรัพย์สินไปกว่า 12 ล้านบาท ส่วนเคสอื่นๆ มูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 1 แสนบาท ไปจนถึง 1 ล้านบาท และบางเคสก็ได้แค่ 2,000 บาท มีบางเคสที่ไม่ได้อะไรติดมือไปเลยก็มี

ซึ่งพฤติกรรมในการก่อเหตุของจอมโจรอ้วนผอมแก๊งไอ้โม่งลิงคู่นี้ คือจะลงมือก่อเหตุแบบเดียวกันทุกครั้ง คือการเจาะเซฟ รวมถึงการแต่งกายที่มิดชิด ด้วยการสวมเสื้อผ้าคล้ายชุด PPE สวมหมวกโม่งลิง สวมถุงมือ สะพายเป้สีดำ ถือชะแลงเหล็กยาว และจะเลือกลงมือก่อเหตุทั้งในปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส สหกรณ์การเกษตร โรงงานปาล์มน้ำมัน ร้านค้าขนาดใหญ่ ร้านรับส่งพัสดุ แพปลา หรือแม้แต่มัสยิด รวมถึงบ้านที่มีฐานะด้วย

โดยจะเลือกสถานที่ซึ่งมีที่ตั้งติดกับป่าละเมาะ หรืออยู่ห่างไกลชุมชน และเป้าหมายหลักคือตู้เซฟ จะเลือกลงมือในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน หรือช่วงเทศกาล เพราะจะมีเวลาในการก่อเหตุอย่างสะดวก และแทบทุกครั้งจะนำเซิฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดไปด้วยเพื่อป้องกันตำรวจตามแกะรอย โดยหนึ่งในภาพหลักฐานจากกล้อวงวงจรปิดที่มีการเจาะเซฟอย่างชัดเจน คือที่สหกรณ์การเกษตรทุ่งหว้า จ.สตูล เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ได้เงินสดไปกว่า 2 แสนบาท ซึ่งใช้เครื่องเจียร์ตัดตู้เซฟ

ถึงแม้ว่าทั้งจอมโจรอ้วนผอมแก๊งไอ้โม่งลิงคู่นี้จะหนีลอยนวล และรอดจากการจับกุมมาตลอด 7 ปี เพราะแทบจะไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้เลย แต่ก็มาตายน้ำตื้นจากการเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เมื่อคืนวันที่ 18 มิถุนายน ซึ่งได้เหล้าไปเพียง 1 ขวด แต่หลังจากตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ แม้ว่าจะเป็นคดีเล็กๆ แต่ก็พบพิรุธ และจุดสังเกตบางอย่าง

โดยเฉพาะกระเป๋าสะพายหลัง ซึ่งเหมือนกับของคนร้ายที่ก่อเหตุคดีลักทรัพย์หลายๆ คดีที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และประสานข้อมูลและการปฏิบัติจากหลายท้องที่ทั่วประเทศทั้งภาค 9 ภาค 7 และภาค 5 จนพบว่ามีเหตุลักทรัพย์ที่มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกัน รวมทั้งสิ้น 25 ครั้ง ในหลายท้องที่ทั่วประเทศ

จนนำมาสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ จำนวน 4 หมายใน 4 จังหวัด คือหมายจับของ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี สภ.ควนกาหลง จ.สตูล และ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และตามจับกุมทั้ง 2 คนได้ในที่สุด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มอีก 2-3 คนที่ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์ในบางคดี

จากการสอบสวนทั้ง 2 คน ก็ยอมรับสารภาพโดยบอกว่าเท่าที่จำได้ เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2560-2565 ประมาณ 20 ครั้ง ประกอบด้วย พื้นที่ภาคใต้ จำนวน 12 ครั้ง ได้แก่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 3 ครั้ง และ จ.สตูล 9 ครั้ง ในพื้นที่ภาคกลาง 1 ครั้ง ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี ในพื้นที่ภาคเหนือ 7 ครั้ง ได้แก่ จ.ลำปาง 1 ครั้ง และ จ.เชียงราย 6 ครั้ง โดยคดีอื่นๆ ทั้ง 2 คนอ้างว่าจำไม่ได้ เพราะก่อเหตุมามาก บางครั้งก็ลงมือก่อเหตุ 2 คน บางครั้งก็ 3 คน

ครั้งล่าสุดก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนพัฒนา 6 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 6 แสนบาท และเป็นการยกตู้เซฟไป หลังก่อเหตุจะนำเงิน และทรัพย์สินที่ได้แบ่งกัน และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัวเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่นายสมพรโจรผอมบอกว่า นอกจากจะนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังนำไปรักษาตัวด้วย เพราะตอนนี้ป่วยเป็น HIV ส่วนนายวสันต์โจรผอมหัวหน้าทีม ยอมยกมือไหว้ขอโทษทุกคนที่เคยเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์

หลังถูกจับกุมตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คนไปชี้จุด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เคยก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งใน จ.สงขลา และ จ.สตูล รวม 3 จุด ทั้งร้านสำเพ็งหาดใหญ่ หมู่บ้านปาล์มสปริงหาดใหญ่ และปั๊ม ปตท.ทุ่งนุ้ย จ.สตูล

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่รวม 4 ข้อหา คือร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มองหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิด รวมทั้งผู้ที่รับซื้อทรัพย์สิน และจะเร่งติดตามทรัพย์สินที่ยังไม่ได้คืนมาอย่างเร่งด่วน สำหรับคดีนี้เป็นอีก 1 คดีลักทรัพย์ระดับประเทศ ที่ตำรวจต้องใช้เวลาในการสืบสวนเกือบ 1 ปีเต็ม ทั้งหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และภาพจากกล้องวงจรปิดนำมาวิเคราะห์ข้อมูล จนสามารถระบุแผนประทุษกรรมที่มีลักษณะคล้ายกัน และนำมาสู่การระบุตัว และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้

โดยหลังจากนี้จะสั่งการให้ทุกพื้นที่ที่มีเหตุลักทรัพย์ที่มีพฤติการณ์คล้ายกับคดีดังกล่าว นำพยานหลักฐานมาเปรียบเทียบ เพื่อขยายผลในการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม รวมทั้งติดตามผู้ร่วมขบวนการ และผู้รับซื้อของที่ได้จากการลักทรัพย์ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น