วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ความเจ้าเล่ห์สองหน้าของ เขมร ฮุน เซน กับกลุ่ม BRN ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

ความเจ้าเล่ห์สองหน้าของ เขมร ฮุน เซน กับกลุ่ม BRN ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

ในโลกที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและการบิดเบือนความจริง เรามักพบว่าผู้นำเผด็จการและกลุ่มก่อการร้ายต่างมีลักษณะนิสัยบางประการที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าเล่ห์ หลอกลวง ใช้เล่ห์กลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่สนใจความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ — นี่คือจุดร่วมที่ชัดเจนระหว่าง สมเด็จฮุน เซน อดีตผู้นำเผด็จการแห่งกัมพูชา กับกลุ่มก่อการร้าย BRN ที่ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย

ฮุน เซน : สัญลักษณ์ของอำนาจนิยมและความเจ้าเล่ห์

ฮุน เซน เป็นผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยวิธีการบิดเบือนหลักประชาธิปไตย ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม และแต่งตั้งเครือญาติขึ้นสู่อำนาจ ไม่ต่างจากการสืบราชบัลลังก์ทางการเมือง หลังจากรัฐประหารนองเลือด เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมกดดันให้ สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ต้องออกนอกประเทศ และบีบให้กัมพูชากลายเป็นสมบัติเฉพาะกลุ่มของตน ภายใต้หน้ากากของ "เสถียรภาพ" แต่เต็มไปด้วยการกดขี่ การควบคุมสื่อ และการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ

BRN : จอมหลอกลวงในนามศาสนา

ในทำนองเดียวกัน กลุ่มก่อการร้าย BRN ที่อ้างตนว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ กลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และขาดความเมตตา พวกเขาใช้ศาสนาเป็นข้ออ้างเพื่อก่อความรุนแรง สังหารพระภิกษุ เณร ผู้นำศาสนาอิสลาม หญิงชรา เด็กเล็ก และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพียงเพื่อสร้างความหวาดกลัวและหวังผลทางการเมือง กล่าวอ้างว่าเป็น ญีฮาด ทั้งที่ความจริงนั้นไม่มีหลักศาสนาใดให้การรับรอง โดยเฉพาะ กลุ่มอูลามะโลก, OIC และ จุฬาราชมนตรีแห่งประเทศไทย ล้วนยืนยันแล้วว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ใช่ดารุลฮัรบี” เพราะประเทศไทยเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และรัฐยังให้การสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาอย่างเต็มที่

หน้ากากแห่ง "สันติภาพ" ที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง

ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการเมืองกับฮุน เซน หรือการพูดคุยเพื่อสันติภาพกับกลุ่ม BRN ล้วนเป็นเพียง "กลยุทธ์ชั่วคราว" เพื่อบิดเบือนความจริง ทั้งสองฝ่ายต่างมีพฤติกรรมซ้ำซาก คือ แสร้งทำเป็นร่วมมือเพื่อสันติ ขณะเดียวกันก็ใช้เบื้องหลังในการวางแผนทำลาย และผลักดันเป้าหมายส่วนตัว กลุ่ม BRN ยืมศาสนาเป็นฉากหน้า ใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ ซ่อนตัวตามมัสยิดหรือในชุมชน แล้วกล่าวหาว่ารัฐกระทำเกินกว่าเหตุ เช่นเดียวกับฮุน เซน ที่ใช้คำว่าความมั่นคงและความสงบสุขมาหลอกลวงประชาคมโลก แต่กลับปิดปากประชาชนภายในประเทศด้วยกำลังและการคุกคาม

สรุป : ความจริงใจไม่มีในพจนานุกรมของคนเหล่านี้

ในขณะที่ประชาชนต้องการสันติสุขและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างฮุน เซน และกลุ่มก่อการร้าย BRN กลับเดินเกมด้วยความเห็นแก่ตัว เอาประชาชนเป็นเหยื่อ ใช้ศาสนาและวาทกรรมความยุติธรรมบังหน้า ความจริงใจที่แท้จริงนั้นไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนเหล่านี้

จอมลวงโลก...ก็คือจอมลวงโลก

การเจรจากับพวกนี้มีแต่จะตกเป็นเหยื่อของกลอุบาย

และคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุด...ก็คือประชาชนผู้บริสุทธิ์

****************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น