ความเจ้าเล่ห์สองหน้าของ
เขมร ฮุน เซน กับกลุ่ม BRN
ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ในโลกที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและการบิดเบือนความจริง
เรามักพบว่าผู้นำเผด็จการและกลุ่มก่อการร้ายต่างมีลักษณะนิสัยบางประการที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด
ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าเล่ห์ หลอกลวง ใช้เล่ห์กลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
โดยไม่สนใจความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ — นี่คือจุดร่วมที่ชัดเจนระหว่าง สมเด็จฮุน
เซน อดีตผู้นำเผด็จการแห่งกัมพูชา กับกลุ่มก่อการร้าย BRN ที่ก่อเหตุในพื้นที่
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
ฮุน เซน
: สัญลักษณ์ของอำนาจนิยมและความเจ้าเล่ห์
ฮุน
เซน เป็นผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้วยวิธีการบิดเบือนหลักประชาธิปไตย ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม
และแต่งตั้งเครือญาติขึ้นสู่อำนาจ ไม่ต่างจากการสืบราชบัลลังก์ทางการเมือง
หลังจากรัฐประหารนองเลือด เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมกดดันให้ สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์
ต้องออกนอกประเทศ และบีบให้กัมพูชากลายเป็นสมบัติเฉพาะกลุ่มของตน ภายใต้หน้ากากของ
"เสถียรภาพ" แต่เต็มไปด้วยการกดขี่ การควบคุมสื่อ
และการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ
BRN : จอมหลอกลวงในนามศาสนา
ในทำนองเดียวกัน
กลุ่มก่อการร้าย BRN
ที่อ้างตนว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ กลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
ป่าเถื่อน และขาดความเมตตา พวกเขาใช้ศาสนาเป็นข้ออ้างเพื่อก่อความรุนแรง สังหารพระภิกษุ
เณร ผู้นำศาสนาอิสลาม หญิงชรา เด็กเล็ก และประชาชนผู้บริสุทธิ์
เพียงเพื่อสร้างความหวาดกลัวและหวังผลทางการเมือง กล่าวอ้างว่าเป็น ญีฮาด
ทั้งที่ความจริงนั้นไม่มีหลักศาสนาใดให้การรับรอง โดยเฉพาะ กลุ่มอูลามะโลก,
OIC และ จุฬาราชมนตรีแห่งประเทศไทย ล้วนยืนยันแล้วว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ใช่ “ดารุลฮัรบี”
เพราะประเทศไทยเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และรัฐยังให้การสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาอย่างเต็มที่
หน้ากากแห่ง
"สันติภาพ" ที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง
ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการเมืองกับฮุน
เซน หรือการพูดคุยเพื่อสันติภาพกับกลุ่ม BRN ล้วนเป็นเพียง
"กลยุทธ์ชั่วคราว" เพื่อบิดเบือนความจริง
ทั้งสองฝ่ายต่างมีพฤติกรรมซ้ำซาก คือ แสร้งทำเป็นร่วมมือเพื่อสันติ
ขณะเดียวกันก็ใช้เบื้องหลังในการวางแผนทำลาย และผลักดันเป้าหมายส่วนตัว กลุ่ม BRN
ยืมศาสนาเป็นฉากหน้า ใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์
ซ่อนตัวตามมัสยิดหรือในชุมชน แล้วกล่าวหาว่ารัฐกระทำเกินกว่าเหตุ เช่นเดียวกับฮุน
เซน ที่ใช้คำว่าความมั่นคงและความสงบสุขมาหลอกลวงประชาคมโลก
แต่กลับปิดปากประชาชนภายในประเทศด้วยกำลังและการคุกคาม
สรุป :
ความจริงใจไม่มีในพจนานุกรมของคนเหล่านี้
ในขณะที่ประชาชนต้องการสันติสุขและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ
แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างฮุน เซน และกลุ่มก่อการร้าย BRN กลับเดินเกมด้วยความเห็นแก่ตัว
เอาประชาชนเป็นเหยื่อ ใช้ศาสนาและวาทกรรมความยุติธรรมบังหน้า
ความจริงใจที่แท้จริงนั้นไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนเหล่านี้
จอมลวงโลก...ก็คือจอมลวงโลก
การเจรจากับพวกนี้มีแต่จะตกเป็นเหยื่อของกลอุบาย
และคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุด...ก็คือประชาชนผู้บริสุทธิ์
****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น