สังคมไทยแต่ละภูมิภาค
ต่างดำรงชีวิตและความเป็นอยู่แตกต่างกันไปเช่นเดียวกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย
และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตลอดมา มีทั้งชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน
นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพื้นที่ ที่แตกต่างจากสังคมไทยในภูมิภาคอื่นๆ
หลายประการ
สังคมใน
3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ผ่านมา ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข
เข้าใจกัน ดำเนินวิถีชีวิตร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมกันอย่างกลมกลืน
ชาวไทยพุทธมักจะร่วมงานประเพณีต่างๆ ของชาวไทยมุสลิม เช่น กวนอาซูรอของชาวมุสลิม
การแต่งกาย การจัดประเพณีงานแต่งงาน การร่วมบริจาคทำบุญเพื่อพัฒนามัสยิด
เป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิม
ชาวไทยมุสลิมก็เข้าร่วมประเพณีวัฒนธรรมงานแต่งงาน งานบุญงานบวชของชาวไทยพุทธ
ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาหมู่บ้าน พัฒนาวัดในพื้นที่
สำหรับในด้านอาหารการกินก็มีให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย ทั้งอาหารไทย
อาหารจีน อาหารมุสลิม อาหารมุสลิมที่มีชื่อของสามจังหวัดชายแดนใต้ เช่น มะตะบะ
ตือโบ๊ะ ไก่กอและ ก็เป็นอาหารที่นิยมของผู้คนในพื้นที่ จากความหลากหลายทางสังคม
และวัฒนธรรมของคนในสามจังหวัดชายแดนใต้
ทำให้สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของทั้งชาวไทย
และชาวต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้ง
และความรุนแรงในพื้นที่อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม
แม้เหตุการณ์ความไม่สงบ และความรุนแรงในพื้นที่ในอดีต
อาจทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้
แต่วิถีชีวิตของคนในพื้นที่ทั้งชาวไทยพุทธ มุสลิม คนไทยเชื้อสายจีน
ก็ยังคงมีความรักความผูกพัน สมัครสมานสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้น
รวมถึงการร่วมมือกันเพื่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
โดยหวังว่าจะนำความสงบสุขในพื้นที่จะกลับมาอีกครั้ง
เพื่อให้เป็นสามจังหวัดชายแดนใต้ที่ดึงดูดผู้คนมาท่องเที่ยว
และมาเยี่ยมดังเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต ขอให้เราทุกคนต่อต้านความรุนแรงอย่าให้ความรุนแรง
และความเห็นต่างของคนเพียงไม่กี่คน มาทำลายความสุข ความสามัคคีของผู้คนส่วนใหญ่เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น