BRN หมดทางต่อสู้ โดยทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างผิดหลักมนุษยธรรม
จากเหตุเศร้าสะเทือนใจของพี่น้องในพื้นที่
จชต. กรณีเมื่อ
30 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ
สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ในพื้นที่เขตอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
โดยพฤติกรรมของคนร้ายคาดว่า นำระเบิดแบบแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์)
นำไปจอดไว้บริเวณริมถนนหน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา
ต่อมาได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น
แรงระเบิดสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านพักและแฟลตเป็นบางส่วน
รวมถึงมีทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นครูผู้หญิง สอน รร.ตาดีกาประจำศูนย์จริยธรรมมัสยิดบันนังสตา
และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 21 ราย
ซึ่ง
BRN
มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ต้องการสื่อให้สังคมเข้าใจผิดเป็นการล้างแค้นระหว่างศาสนา
นำไปสู่ความแตกแยกของพี่น้องไทยพุทธไทยมุสลิมในพื้นที่ อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวของ
BRN เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน
จากภาพข่าวที่สื่อมวลชน
ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลักได้นำเสนอออกไปสู่สาธารณอย่างกว้างขวางนั้น
มีสื่อหลายสำนักพยายามชี้นำสังคมให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่
มีการกล่าวโทษการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนนำไปสู่ความเดือดร้อน ไม่ได้มีการกล่าวถึง BRN ซึ่งเป็นต้นตอและต้นเหตุแห่งความรุนแรง
ข้อเท็จจริง
ที่สื่อมองข้ามและไม่ได้นำเสนอกับประชาชนแท้จริงแล้ว ผู้ก่อการร้ายหมดหนทางต่อสู้
โดยหันมาทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ แทนการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ
อีกทั้งยังทำลายนักบวช
ผู้นำศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุหรือโต๊ะอิหม่าม ครูสอนศาสนา รร.ตาดีกา อย่างโหดเหี้ยมผิดหลักมนุษยธรรม
เพื่อต้องการสร้างความแตกแยก
ความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนต่างเชื้อชาติต่างศาสนา ซึ่งเป็นความพยายามหลักของผู้ก่อการร้าย
ที่ได้ทำการก่อเหตุเคลื่อนไหวมาโดยตลอดห้วง 20 ปีที่ผ่านมา
ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีความอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่งในแง่สังคมจิตวิทยา
นอกจากปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีสงครามความรู้สึก สงครามทางความคิด
มีการปล่อยกระแสข่าวลือ เพื่อบ่อนทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ
สื่อทุกแขนงย่อมมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่
หรือนอกพื้นที่รวมทั้งการนำเสนอเผยแพร่ข่าวสารไปยังต่างประเทศ
หากสื่อขาดวิจารณญาณในการนำเสนอข่าว
หรือนำเสนอข้อเท็จจริงไม่ครบประเด็นหรือไม่รอบด้านแล้วจะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวมของรัฐบาล
หากจะกล่าวไปแล้วปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีปัญหาที่รากฝังแน่นลึกมานานหลายปี ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่มีแค่เฉพาะปัญหาความมั่นคงเพียงอย่างเดียว
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงไปยังขบวนการค้ายาเสพติด การลักลอบสินค้าหนีภาษี ให้การหนุนหลังเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับผู้ก่อการร้ายใช้ก่อเหตุ
ซึ่งหากจะกล่าวถึงคงจะเยิ่นยาว
ทั้งหมดทั้งสิ้นเมื่อปัญหาภัยแทรกซ้อนผสมผสานกับปัญหาจากการก่อเหตุของผู้ก่อการร้าย
ผลกระทบทั้งมวลประชาชนคือผู้ที่รับเต็มๆ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ฉะนั้นสื่อมวลชนที่พยายามชี้ให้เห็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น มีการกล่าวโทษการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐว่าผิดพลาด
ดูแลประชาชนไม่ทั่วถึงจะต้องกลับไปคิดทบทวนถึงต้นตอว่าใคร? คือผู้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนดีกว่า แต่ที่แน่ๆ ณ วันนี้ BRN หมดทางต่อสู้ โดยทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์
สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมโดยอย่างไร้มนุษยธรรมและขาดความรับผิดชอบต่อการกระทำอันป่าเถื่อน
นี่หรือ!!! การเรียกร้องสันติภาพของ BRN ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น