วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

BRN หมดทางต่อสู้ โดยทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างผิดหลักมนุษยธรรม

BRN หมดทางต่อสู้ โดยทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างผิดหลักมนุษยธรรม

จากเหตุเศร้าสะเทือนใจของพี่น้องในพื้นที่ จชต. กรณีเมื่อ 30 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ในพื้นที่เขตอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยพฤติกรรมของคนร้ายคาดว่า นำระเบิดแบบแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) นำไปจอดไว้บริเวณริมถนนหน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา

ต่อมาได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น แรงระเบิดสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านพักและแฟลตเป็นบางส่วน รวมถึงมีทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นครูผู้หญิง สอน รร.ตาดีกาประจำศูนย์จริยธรรมมัสยิดบันนังสตา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 21 ราย

ซึ่ง BRN มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ต้องการสื่อให้สังคมเข้าใจผิดเป็นการล้างแค้นระหว่างศาสนา นำไปสู่ความแตกแยกของพี่น้องไทยพุทธไทยมุสลิมในพื้นที่ อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวของ BRN เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน

จากภาพข่าวที่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลักได้นำเสนอออกไปสู่สาธารณอย่างกว้างขวางนั้น มีสื่อหลายสำนักพยายามชี้นำสังคมให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ มีการกล่าวโทษการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนนำไปสู่ความเดือดร้อน ไม่ได้มีการกล่าวถึง BRN ซึ่งเป็นต้นตอและต้นเหตุแห่งความรุนแรง

ข้อเท็จจริง ที่สื่อมองข้ามและไม่ได้นำเสนอกับประชาชนแท้จริงแล้ว ผู้ก่อการร้ายหมดหนทางต่อสู้ โดยหันมาทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ แทนการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ

อีกทั้งยังทำลายนักบวช ผู้นำศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุหรือโต๊ะอิหม่าม ครูสอนศาสนา รร.ตาดีกา อย่างโหดเหี้ยมผิดหลักมนุษยธรรม เพื่อต้องการสร้างความแตกแยก ความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนต่างเชื้อชาติต่างศาสนา ซึ่งเป็นความพยายามหลักของผู้ก่อการร้าย ที่ได้ทำการก่อเหตุเคลื่อนไหวมาโดยตลอดห้วง 20 ปีที่ผ่านมา

ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความอ่อนไหวเป็นอย่างยิ่งในแง่สังคมจิตวิทยา นอกจากปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีสงครามความรู้สึก สงครามทางความคิด มีการปล่อยกระแสข่าวลือ เพื่อบ่อนทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ สื่อทุกแขนงย่อมมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่ หรือนอกพื้นที่รวมทั้งการนำเสนอเผยแพร่ข่าวสารไปยังต่างประเทศ หากสื่อขาดวิจารณญาณในการนำเสนอข่าว หรือนำเสนอข้อเท็จจริงไม่ครบประเด็นหรือไม่รอบด้านแล้วจะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวมของรัฐบาล

หากจะกล่าวไปแล้วปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหาที่รากฝังแน่นลึกมานานหลายปี ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่มีแค่เฉพาะปัญหาความมั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงไปยังขบวนการค้ายาเสพติด การลักลอบสินค้าหนีภาษี ให้การหนุนหลังเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับผู้ก่อการร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งหากจะกล่าวถึงคงจะเยิ่นยาว ทั้งหมดทั้งสิ้นเมื่อปัญหาภัยแทรกซ้อนผสมผสานกับปัญหาจากการก่อเหตุของผู้ก่อการร้าย ผลกระทบทั้งมวลประชาชนคือผู้ที่รับเต็มๆ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ฉะนั้นสื่อมวลชนที่พยายามชี้ให้เห็นปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น มีการกล่าวโทษการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐว่าผิดพลาด ดูแลประชาชนไม่ทั่วถึงจะต้องกลับไปคิดทบทวนถึงต้นตอว่าใคร? คือผู้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนดีกว่า แต่ที่แน่ๆ ณ วันนี้ BRN หมดทางต่อสู้ โดยทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมโดยอย่างไร้มนุษยธรรมและขาดความรับผิดชอบต่อการกระทำอันป่าเถื่อน นี่หรือ!!! การเรียกร้องสันติภาพของ BRN ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น