ขบวนการชั่วร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักขบวนการที่มีความสุดโต่ง “โจรใต้ฟาตอนี กลุ่ม BRN”ที่เคลื่อนไหวต่อสู้กับรัฐบาลไทย
มีการปฏิบัติทั้งงานการเมืองและการใช้กำลังที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ “เอกราช”
โดยที่ฝ่ายใช้กำลังทำการสู้รบแบบกองโจรมุ่งสร้างความปั่นป่วนด้วยการก่อเหตุร้ายทำลายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์
ทำลายทรัพย์สิน สาธารณูปโภคของรัฐอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันปีกการเมืองที่รับผิดชอบในการปลุกระดมแนวความคิด ได้มุ่งจุดประกายการกำหนดใจตนเอง
(RSD) เพื่อนำไปสู่การลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชปกครองตนเอง
จัดเสวนาสร้างการรับรู้ทั้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
พื้นที่ส่วนอื่นของประเทศ และยังต่างประเทศ
ตลอด
20 ปีไฟใต้ ณ ปลายด้ามขวานแห่งนี้ หลายคนสงสัยว่าเมื่อไหร่!! เหตุการณ์จะสงบสักที
และผู้ที่ทำการก่อเหตุทั้งที่ถูกจับดำเนินคดีหรือเสียชีวิตจากการปะทะ ทำไม? ยังมีตัวตายตัวแทนเกิดขึ้น
ยังไม่นับรวมผู้ที่กลับใจเข้ามารายงานตัวแสดงตนเข้าสู่โครงการพาคนกลับบ้าน กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัว
ถ้านับถึง ณ ปัจจุบันนี้ยอดทะลุเป็นหลัก 1,000 กว่าคน
คำถามนั้นอาจจะไม่มีคำตอบ
และเป็นคำถามที่เราต้องสงสัยกันต่อไป แต่เมื่อได้รับฟังคำบอกเล่าของสมาชิกแนวร่วม
ผู้ก่อการร้ายที่โดนจับกุมตัวกลับถึงบางอ้อ!! อย่างนี้นี่เอง
ซึ่งแต่ละคนได้เล่าถึงปูมหลัง “จุดเริ่มต้นเข้าสู่ขบวนการ”
เกิดจากถูกชักจูงจากแกนนำในพื้นที่ ซึ่งใช้เล่ห์เพอุบายหลอกล่อชักชวนเยาวชนและนักเรียน
นักศึกษาเพื่อให้เข้าสู่องค์กร
ด้วยการปลูกฝังและบ่มเพาะแนวความคิดตามที่ขบวนการต้องการ
วิธีการชักชวนเป้าหมายเข้าสู่องค์กร
จากคำบอกเล่าของผู้หลงผิดได้เล่าถึงวิธีการที่พวกโจรใต้เอามาใช้ต่อเป้าหมายแล้วได้ผลนั่นคือ
การชักชวนเยาวชนเป้าหมายมารับฟังประวัติศาสตร์รัฐปัตตานี
หลักของการญีฮาดของศาสนาอิสลามที่เป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคน ชี้ให้เห็นเงื่อนไข
“ความไม่เป็นธรรม” ในสังคมที่ถูกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
และเงื่อนไขความเป็นชาติพันธุ์มลายูในระบบเครือญาติ มีการอิงแอบศาสนาอิสลาม
กล่าวอ้างพระเจ้า หรือ “องค์อัลเลาะห์” เป็นสิ่งที่ต้องกระทำไม่กระทำจะเป็นบาป!!!
นอกจากนั้น
จะมีการคัดเลือกเป้าหมายจะต้องเป็นเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียบร้อย เรียนเก่ง
มีความอ่อนไหวง่ายต่อการปลูกฝังอุดมการณ์ทางความคิด โดยที่ผ่านมาพบว่าครูสอนศาสนา
(อุสตาซ) หรือแม้กระทั่งรุ่นพี่หรือบุคลากรในสถานศึกษาจะเป็นนักจัดตั้ง
ด้วยการปลุกระดม ชักชวนให้เยาวชนเป้าหมายเข้าสู่ขบวนการ
ซึ่งมีทั้งเยาวชนที่อยู่ในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา
การเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่
ในการชักชวนเป้าหมายเข้าสู่องค์กร
นับได้ว่าในปัจจุบันเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ใช้ได้ผล
เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเยาวชนสมัยใหม่ ให้ความสนใจกับสื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น
จึงเป็นโอกาสประจวบเหมาะในการสื่อสารโน้มน้าว พูดคุย ใส่ข้อมูล ที่ผิดๆ ลงไป
ให้ทำการต่อต้านรัฐ เมื่อหลงเชื่อมีการนัดพบปะเพื่อดำเนินการจัดตั้งเป็นสมาชิก
ผกร.ต่อไป
เนื้อหาของการบ่มเพาะ
การปลูกฝังอุดมการณ์แนวความคิดให้กับแนวร่วมยุคใหม่
กลุ่มผู้ก่อการร้าย ยังคงใช้เนื้อหาในการบ่มเพาะ 3
ประเด็นหลักด้วยกัน คือ ด้านประวัติศาสตร์ ศาสนาอิสลาม
และเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก
ด้านประวัติศาสตร์
จะมีการกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับรัฐปาตานีดารุสลาม ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต
มีอิสระ แต่กลับถูกยึดครองจากสยาม อีกทั้งยังมีการเกณฑ์แรงงานชาวปาตานี ไปขุดคลองแสนแสบที่บางกอก
อย่างไรก็ตามจากแหล่งข้อมูลมีการพบว่า
ในปัจจุบันนี้มีการใช้เนื้อหาประวัติศาสตร์น้อยลงมาก ส่วนหนึ่ง อาจจะมาจากเยาวชนหรือแนวร่วมรุ่นใหม่ๆ
ไม่ค่อยมีความรู้สึกร่วมกับประเด็นประวัติศาสตร์ อีกแล้ว
การใช้ศาสนาอิสลามเป็นเครื่องมือ
จะใช้การบิดเบือนให้แนวร่วมเข้าใจผิดว่า การต่อสู้ของกลุ่มขบวนการเป็นความประสงค์ของพระเจ้า
แล้วก็สร้างภาพให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า “คนอิสลามทุกคนคือนักรบของพระเจ้า
ถ้าใครไม่รบก็จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างอื่นแทน
หรือถ้าช่วยเหลือไม่ได้ก็ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกัน ทุกคนต้องสาบานว่า
จะต่อสู้เพื่อปลดปล่อยปัตตานีให้เป็นแผ่นดินของพระเจ้า โดยถือคำสาบานว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนได้เปล่งวาจาออกมาด้วยความเสียสละ
ไม่กลัวตายใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นคำสัตย์สูงสุด”
ผู้ที่ไม่เข้าร่วมหรือไม่ทำตาม
จะเป็นบาปตกนรก แต่ถ้าหากเสียชีวิตจากการต่อสู้จะได้ขึ้นสวรรค์ทันที
การใช้ประเด็นศาสนามักใช้ได้ผลกับสมาชิกแนวร่วมที่มีความรู้น้อยเท่านั้น
หากเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องศาสนาเป็นอย่างดีอาจจะไม่ได้ผลทางด้านจิตวิทยา
เหตุการณ์
ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนชาวไทยมุสลิมหมู่มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้ามัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี
และเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ได้กลายเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มขบวนการ
มีการใช้เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมากในการปลุกระดม
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์เพิ่งเกิดและส่งผลในด้านจิตวิทยาต่อเยาวชนหรือแนวร่วมโดยตรงให้เกิดความเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ
การปลุกระดม
ฝ่ายปลุกระดม
ไม่มีแบบแผนตายตัวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
แต่ส่วนมากมักเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้
หรือได้รับการยกย่องและยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ มีคุณวุฒิทางศาสนา
ขบวนการโจรใต้ฟาตอนี มีขีดความสามารถในการสร้างผู้นำศาสนา รวมทั้งครูสอนศาสนา
(อุสตาส) ให้เป็นแกนนำในพื้นที่ต่างๆ แล้วแบ่งกันรับผิดชอบ
ออกปฏิบัติการตามคำสั่งในการปลุกระดม และยังสามารถทำให้ผู้นำศาสนาเหล่านี้ มีความเลื่อมใสศรัทธา
พอกพูนอุดมการณ์อย่างชนิดถวายหัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือการได้เป็นนักรบของพระเจ้า
หลงเชื่อว่าเป็นการทำสงครามเพื่อปลดปล่อยอิสลามจากการกดขี่ข่มเหงของคนต่างศาสนา
สถานที่ปลุกระดมบ่มเพาะ
กลุ่มผู้ก่อการร้าย
ยังคงลักลอบใช้สถานที่ทั้งภายในสถานศึกษาและภายนอกสถานศึกษา ในการบ่มเพาะเยาวชนหรือแนวร่วม
ตามจังหวะโอกาสจะเอื้ออำนวยแหล่งบ่มเพาะในสถานศึกษา นับว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะชั้นดีของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
เลยทีเดียว เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการบ่มเพาะแนวร่วมสั้นกว่านอกสถานศึกษา
ยิ่งไปกว่านั้นเยาวชนหรือแนวร่วมที่เข้าสู่ขบวนการบ่มเพาะในสถานศึกษา มักมีความตั้งใจในการรับฟังและเชื่อฟังสูงกว่าผู้ที่เข้าร่วมการบ่มเพาะนอกสถานศึกษา
จึงไม่น่าแปลกใจ
ที่มีข่าวคราวโรงเรียนสอนศาสนาเอกชน
หรือปอเนาะมักมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการมาโดยตลอด เป็นที่ซ่องสุมกำลัง
เป็นแหล่งพักพิง หลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธ และเป็นที่ประกอบวัตถุระเบิดของผู้ก่อการร้าย
นี่คือ รูปแบบในการหาสมาชิกแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
ฝากผู้ปกครองคอยย้ำเตือนดูแลบุตรหลาน อย่าให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มโจรชั่วเหล่านี้
โดยเฉพาะบุตรหลานของท่านที่เป็นเด็กนิสัยดี เรียบร้อย เรียนเก่ง
อย่านิ่งนอนใจว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการ
อย่าลืมว่าเด็กที่มีคุณสมบัติเหล่านี้คือเป้าหมายของกลุ่มขบวนการ
ที่อยู่ในสายตา ผู้ก่อการร้ายคอยติดตาม ชักชวนให้เข้าสู่วังวนของความชั่วร้าย
ยากที่จะถอนตัว เนื่องจากถูกปลูกฝังอุดมการณ์ เหมือนการฝังซิป
ด้วยการบิดเบือนความจริง ใส่ข้อมูลผิดๆ ให้หลงเชื่อตามที่กลุ่มขบวนการต้องการ
หลายต่อหลายครั้งที่เกิดการปะทะจนนำไปสู่การสูญเสีย ณ เวลานั้นมันสายเกินแก้ไปเสียแล้ว
กว่าจะรู้ว่าลูกตัวเองเป็นสมาชิกแนวร่วม....พ่อแม่ต้องเสียน้ำตา
บุตรหลานต้องจบชีวิตลงหมดสิ้นอนาคต
หมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเราจะไปร้องเรียกหาอะไรจากใครไม่ได้อีกเลย!!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น