วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ผู้รับกรรม

"ผู้รับกรรม"....

...."ปัตตานีมหานคร" นายมันโซร์ สาและ แกนนำเรียกร้อง โดยโครงสร้างมีหลักๆ มี "สภาซูรอ หรือ สภาประชาชน" มี "สภาปัตตานีมหานคร" มีการเลือกตั้ง "ผู้ว่าราชการปัตตานีมหานคร" มีอำนาจแต่งตั้ง "ปลัดปัตตานีมหานคร" มี "สภาเขต" และ มีการนำกฎหมายอิสลาม หรือชารีอะฮ์ มาบังคับใช้....

(ปัจจุบันไทยพุทธยังถูกเบียนดอออกจากหน่วยงานราชการแล้ว ถ้าสภาพวกนี้เข้ามาอีกสงสัยได้ย้ายนอกพื้นที่แน่ ซึ่งถือว่าเข้าแผนมันเลย)....

...กลุ่ม BRN นายฮาซัน ตอยิบ แกนนำเรียกร้อง โดยหลัดมี 5 ข้อเสนอ

(1) ผู้ยึดครองแห่งสยามต้อง(ยอม) รับ(รอง) มาเลเซียว่าเป็นคนกลาง (ผู้ไกล่เกลี่ย) ไม่ใช่เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกเท่านั้น

(2) การพูดคุยเกิดขึ้นระหว่างชนชาติปาตานี ซึ่งนำโดยบี.อาร์.เอ็น. กับผู้ยึดครองแห่งสยาม

(3) ในการพูดคุยกันนั้นต้องมีสักขีพยานที่มาจากประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียน, โอ.ไอ.ซี. และองค์กรอิสระ

(4) ผู้ยึดครองแห่งสยามต้องให้อิสรภาพแก่ผู้ต้องคุมขังทุกคนและยกเลิกหมายจับทั้งหมดโดยปราศจากเงื่อนไข

(5) ผู้ยึดครองแห่งสยามต้องรับรอง ว่า บี.อาร์.เอ็น. เป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อการปลดปล่อยชนชาติปาตานี ไม่ใช่เป็นผู้แบ่งแยก

(แม้ฝ่ายไทยพลั้งรับรองแค่คำว่า "สยาม" ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ เพียงคำเดียวอาจต้องสูญเสียดินแดน)

....กลุ่ม BRN รุ่นใหม่ “6 ไม่ -1 ต้อง”

ไม่ เจรจาประนีประนอมกับรัฐไทย

ไม่ ยอมรับระบบรัฐสภา

ไม่ รับเขตปกครองพิเศษ

ไม่ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

ไม่ โยกย้ายหนีไปไหน

ไม่ มอบตัว

และต้อง ทำสงคราม “ญิฮาด” เพื่อปลดปล่อยรัฐปัตตานี จากการยึดครองของสยาม ไม่ว่ามันจะใช้เวลายาวนานสักเพียงใดก็ตาม....

ถึงแม้ประเทศไทยจะพูดคุยกับฝ่ายใด หรือจะยอมรับข้อเสอนใดๆ กับแต่ละกลุ่มก็ตามสุดท้ายพี่น้อง "ประชาชน" ในพื้นที่ต้องเป็นผู้รับกรรม เพราะต่างกลุ่มต่างฝ่ายแสวงหาอำนาจในการครอบครอง ไม่ใช่ปกครอง ซึ่งเห็นได้ชัดจากแนวความคิดของแต่ละกลุ่ม

สุดท้ายพวกเขาจะจับปืนขึ้นมาต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์กันเอง และไม่มีวันจบสิ้น และแน่นอนประชาชน คือ "ผู้รับกรรม"....

(เหมือนกลุ่มกบฏอิสลามโมโรของฟิลิปปินส์ แม้จะบรรลุข้อตกลงใดๆ ผ่านตัวกลางตัวการอย่างมาเลย์ ยังมิวายเกิดเหตุวุ่นวายอยู่เนืองๆ)...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น