ขบวนการ BRN กับการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลาม
"ตอนนั้น
ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้มาจากพวกเขาทั้งหมด มันไม่ใช่แล้ว
หลังจากผมออกมาจากขบวนการแล้ว ผมได้เล่าให้พ่อฟังทุกอย่าง ผมเอาอัล-ฮาดิษ ที่พวกเขาสอนให้พ่อดู
เพื่อให้พ่อแปลให้ฟังว่า ตรงกันกับที่พวกเขาสอนหรือไม่ ปรากฏว่า มันบิดเบือนในสิ่งที่พวกเขาสอน
อัล-ฮาดิษเหมือนกัน แต่คำแปลไม่เหมือนกันกับที่พ่อแปลให้ฟัง ของเขาบิดเบือนไปหมดเลย
เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง" เป็นคำกล่าวของ อส.ฮากิม หรือ นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ
อดีต อส.บันนังสตา จ.ยะลา
ที่กล่าวถึงการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลามของกลุ่มขบวนการ BRN
ยังมีพี่น้องมุสลิมปาตานีอีกเยอะ
ที่โดนหลอกและได้เข้าไปสู่วังวนของความชั่วร้ายของขบวนการ BRN โดนฝังซิปด้วยสิ่งผิดๆ บิดเบือนหลักคำสอนศาสนา ให้แนวร่วมเหล่านี้ ลุกขึ้นต่อสู้กับรัฐไทยโดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ
ปลูกฝังอุดมการณ์ เขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ ยัดเยียดความเกลียดชังคนต่างศาสนา
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ประชาชนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ต่างอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุขภายใต้พหุวัฒนธรรมของความหลากหลาย
ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีทีท่าจะสงบลงสักที และก็ต้องยอมรับว่า
มีปัจจัยเกื้อหนุนให้ปัญหานี้ยังคงดำรงอยู่ เกิดเหตุร้ายรายวัน นำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้
การค้าการลงทุนหดหาย การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานไปไม่ถึงไหน
การศึกษาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ และเป็นตัวชี้วัดเป็นพื้นฐานในการจะพัฒนาไปสู่ด้านอื่นๆ
แทบไม่มีคุณภาพ เพราะครู อาจารย์ ที่มีความรู้ ความสามารถ ต่างพากันย้ายหลบหนีไปอยู่ที่อื่น
นอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความปลอดภัยกว่า
ทำให้เด็กนักเรียนขาดคุณภาพ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้จำนวนมาก
ขบวนการ BRN ได้สร้างเงื่อนไขต่อพี่น้องประชาชนมุสลิมปาตานี
โดยการนำศาสนามาเป็นเครื่องมือในการปลุกระดม ปลุกปั่น
โดยใช้ผู้นำศาสนาในแต่ละหมู่บ้านเป็นเครื่องมือ
อีกทั้งยังมีทีมที่เดินสายในการบรรยายธรรมไปยังสถานที่ต่างๆ
เมื่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นมีความคิดเอนเอียง เห็นด้วย
จึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการฝึกในการใช้กำลัง จัดตั้งเป็น RKK แนวร่วม
มีการทดลองในการปฏิบัติงานจริงด้วยการก่อเหตุโดยอยู่ในความควบคุมของแกนนำสั่งการในแต่ละพื้นที่
ก่อนการก่อเหตุในแต่ละครั้ง
พื้นที่ไหนมีความเสี่ยงจะมีการแจ้งเตือนจากแนวร่วมที่อยู่ในหมู่บ้านไม่ให้ผ่านเส้นทางหรือสถานที่ที่จะมีการก่อเหตุ
ซึ่งพอสรุปได้ว่าเหตุร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น
ที่เป็นแนวร่วมย่อมรู้เห็นเป็นใจให้มีการสร้างเหตุ
แน่นอนว่าแนวร่วมทั้งหมดของกลุ่มขบวนการเหล่านี้โดนปลูกฝังความคิด
ความเชื่อที่ผิดๆ ให้เห็นผิดเป็นชอบ กับการกระทำที่รุนแรง สุดโต่ง
เข่นฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ซึ่งเป็นพี่น้องชาวปาตานีด้วยกันเอง
หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปเรื่อยๆ
เหมือนที่ อส.ฮากิม ได้ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าวภาคใต้ คนของกลุ่มขบวนการมีอยู่ทุกที่ทุกหมู่บ้านที่มีการจัดตั้ง
มีการระราน
มีการข่มขู่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่บุคคลบางกลุ่มได้บิดเบือนประวัติศาสตร์
บิดเบือนหลักคำสอนศาสนาอิสลาม
บิดเบือนข้อมูลข่าวสารความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
เพียงเพื่อสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นกับคนต่างศาสนิก
ให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ
รวมไปถึงเกลียดชังรัฐไทยกล่าวหาว่ารุกรานชาวมลายูปาตานี
การแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลไทย
สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการเร่งสร้างความเข้าใจ
หาทางออกของปัญหาร่วมกันโดยให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเข้ามามีบทบาท
แต่งตั้งที่ปรึกษาด้านต่างๆ โดยคัดเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่เพื่อการแก้ไขปัญหาจะได้ถูกจุด
เกาถูกที่คัน ไม่ต้องเสียเวลาในการคลำหาสาเหตุให้ยุ่งยาก
สิ่งที่สำคัญที่สุด
บทบาทผู้นำศาสนาอิสลามพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
จะต้องมีความกล้าที่จะเปิดเผยการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาของกลุ่มขบวนการที่ใช้ไปในทางที่ผิด
มิฉะนั้นแล้วหลักคำสอนศาสนาอิสลาม ที่ศักดิ์สิทธิ์จะพลอยมัวหมองเนื่องจากกลุ่มบุคคลเพียงไม่กี่คน
ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อจุดประสงค์บางประการในการหลอกให้กลุ่มแนวร่วมหลงเชื่อตามหลักศาสนาที่มีการกล่าวอ้าง
ทั้งที่ความเป็นจริงหลักคำสอนเดียวกันแต่เมื่อมีการตีความกลับตีความไปคนละแบบ
แล้วเราจะปล่อยให้บุคคลเหล่านี้ทำลายหลักคำสอนศาสนาไปอีกนานแค่ไหน ในเมื่อทุกคนที่มีความรู้เรื่องศาสนาอิสลามอย่างแตกฉานกลับทำตัวนิ่งเฉย
ทำตัวแบบทองไม่รู้ร้อน หากเป็นเช่นนี้สันติสุข ความสงบสุข
ที่ทุกคเรียกหาคงจะไม่วันเกิดขึ้นอย่างแน่แท้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น