วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567

พวกเราทุกคนภูมิใจ ที่เราโชคดีได้เกิดมาเป็นคนไทย ภูมิใจกับความเป็นไทย

พวกเราทุกคนภูมิใจ ที่เราโชคดีได้เกิดมาเป็นคนไทย ภูมิใจกับความเป็นไทย เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ที่สอนให้เราทราบถึง"ธรรมชาติสูงสุด"หรือ"สัจธรรมสูงสุด" ที่ทำให้เรารู้และเข้าใจในธรรมชาติของสรรพสิ่ง และสามารถฝึกตัวให้มีทุกข์น้อยลงได้ในที่สุด

มีคนมากมายที่รู้สึกว่า ในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ คนไทยมีความสุขน้อยลง แต่มีความสับสนมากขึ้น พวกสื่อต่างๆส่วนใหญ่ ก็ประโคมข่าวกันจนเกินความจริง เพื่อ่ให้คนซื้อหนังสือพิมพ์ไปอ่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเกลียดชัง ฉ้อโกง งมงาย อันตรายต่างๆ นานา ส่วนรายการทีวี ก็มีแต่ละคร เรื่องอิจฉาริษยา พล็อตเรื่องซ้ำๆ หนังต่างชาติเป็นที่นิยม พวกวัยรุ่น ต่างพากันไปเป็นแฟนคลับของดาราต่างชาติกันมากมาย

หลายๆคน ตั้งคำถามว่า แล้วศิลปะความเป็นไทยหายไปไหน ความเป็นชาตินิยมหายไปไหนดิฉันก็อยากจะตอบว่า วัฒนธรรมอันดีงามต่างๆมากมายของเรา อาทิเช่น น้ำใจและความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ศิลปะแขนงต่างๆ ดนตรีไทย มวยไทย รำไทย บทกวี การละเล่นพื้นเมืองของจังหวัดต่างๆ อาหารไทยที่มีความประณีต รสชาติอร่อยจนเป็นที่เลื่องลือ ไปทั่วโลก

ธรรมชาติอันสวยงามอย่างยิ่งทั้ง ทางชายฝั่งทั้งสองด้าน เกาะแก่งต่างๆที่สวยเหมือนสวรรค์บนดิน หรือ จะเป็นธรรมชาติของแม่น้ำ ป่าเขา ลำเนาไพร นกและพันธุ์ไม้ สวยๆ เราก็มียัง อยู่ครบถ้วน ไม่หายไปไหน และที่เป็นโชคดีสูงสุดของเราคือ เรามี พระมหากษัตริย์ ที่ดียอดเยี่ยมที่สุดในโลก The King of Kings.

แต่เนื่องจาก วัฒนธรรมตะวันตก และ จากประเทศอื่นๆ ที่ไหลบ่าทะลัก เข้ามา อย่างไม่มีใครจะสามารถ กั้นได้ ได้ นั้น มาทำให้เรา โดยเฉพาะเยาวชน มีความรู้สึกตื่นเต้น และเห็นสิ่งที่ถูกนำเสนอ เข้ามา เป็นสิ่งดีงามไปหมดแทบทุกสิ่ง

ซึ่งก็ควรจะเป็นหน้าที่ ของผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ไม่ว่า จะเป็นครอบครัว ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จะช่วยกันทุกรูปแบบที่จะปลูกฝังค่านิยมของความเป็น ไทยให้มากที่สุดเท่าที่ จะมากได้ การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตกเป็นเรื่องดี แต่ควรรับเฉพาะสิ่งดีๆ ไม่ใช่รับเข้ามาทั้งหมด โดยปราศจากการไตร่ตรองยั้งคิด รับแต่สิ่งดีๆ และมาประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมของเราเท่านั้น

เมื่อหลายปีก่อน มีพนักงาน ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่าย บุคคล มีเรื่องไม่พอใจ กับผู้จัดการฝ่ายผลิต เนื่องจากถูกหาว่า ไปก้าวก่ายงานของฝ่ายผลิต ซึ่งเป็น Line function และขอพบผู้จัดการ เพื่อ ขอลาออก

โดยให้เหตุผลว่า จะไปอยู่กับญาติที่อเมริกา ผู้จัดการไต่ถามว่า จะไปทำอะไร เขาบอกว่า ยังไม่ทราบ แต่จะไปทำงานที่คนอเมริกันเขาไม่ทำกัน คงหางานไม่ยาก

จึงเสนอไปว่า ถ้าอย่างงั้น ก็ไปเป็น คนล้างชาม เอาไหม และเกลี้ยกล่อมให้ไปคิดดูดีๆใหม่ อย่าเห่อฝรั่งนักเลย ฝรั่งเขาไม่ปลื้มกับเราหรอก มีแต่เขาจะมองเราว่าชอบไปแย่งงานคนของเขาทำ อยู่ประเทศที่เราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ไม่ชอบ อยากไปเป็นพลเมือง ชั้นสอง ชั้นสาม ในที่สุดก็คิดได้ ไม่ลาออกแล้ว...

ดิฉันเคยไปเรียน อบรม ดูงาน และไปออกงานแสดงสินค้าทุกๆปีๆ ละ2-3 ครั้ง มาหลายประเทศ

ทุกประเทศมีทั้งส่วนดีและไม่ดีทั้งนั้น ที่ New York, L.A. คนเป็นโรคจิตเยอะมาก ปล้นฆ่ากันเป็นประจำ จนเห็นเป็นของธรรมดา ของเรายังน้อยกว่ามาก รถจอดๆอยู่ หาย ก็ธรรมดา ตำรวจไม่ตามให้หรอก แต่ให้ไป Claim กับบริษัทประกันฯ

ที่ญี่ปุ่น ฆ่า ข่มขืน มีประจำ แถมวัยรุ่นอยากเป็นฝรั่ง ย้อมผมแดงกันเต็มเมือง ใส่เสื้อ เขียนด้านหลังเป็นชื่อมหาวิทยาลัยในอเมริกา ชื่นชอบดาราฝรั่ง ผู้หญิงไทยคงไม่อยากไปเกิดที่นี่ ช้างเท้าหลังอย่างเรียบร้อยมาก เรื่องมรรยาทนั้น แท็กซี่ไทยเจอแท็กซี่ฝรั่งเศส ต้องชิดซ้าย ค่ะ แถมฝรั่งเศสยังชาตินิยมสุดๆ คนที่ไปฝรั่งเศส แล้วพูดภาษาเขาได้ จะได้รับไมตรีจิตต์เป็นพิเศษ

ไปอังกฤษ คนบ่น อากาศไม่ดี ผู้นำตามก้นอเมริกา ค่าครองชีพสูงไป

ไปจีน ก็ว่า มรรยาทไม่ไปด้วยกันกับความเจริญบ้าง เสรีภาพน้อยไปบ้าง

ไปอินเดีย ก็ว่า ความเหลื่อมล้ำสูงเกินไป

ยังมีอีกมากมายที่ๆอื่นๆ ก็มีทั้งดีและไม่ดี สำคัญที่เราต้องช่วยกันจรรโลงและรณรงค์ให้คนไทย รู้จักภาคภูมิใจในของดีๆของเราที่มีอยู่มากมาย เช่น ภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณีดีๆ ความมีมิตรไมตรี--ยิ้มสยาม--ของเรา โดยเริ่มจากการปลูกฝังจากที่บ้านก่อน และที่โรงเรียนเป็นลำดับถัดมา

เราต้องรักและภูมิใจในประเทศของเรา แผ่นดินเกิดของเรา และความเป็นคนไทยของเรา ถ้าเราไม่รักประเทศของเรา คิดอะไรก็เป็นลบไปหมด ต่างชาติเขาจะคิดอย่างไร ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ ไปไหนแล้ว มีความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ไปขอข้าวใครเขากิน ไปขอที่พักเขาได้เหมือนเมืองไทยอีกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น