วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ใคร!!.. คือผู้บงการโจรใต้เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์

ความพยายามของกลุ่มโจรใต้ ด้วยการผูกโยง “ศาสนา” เข้ามาเกี่ยวข้องในการต่อสู้ เราจะเห็นอยู่บ่อยครั้ง การสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าผู้ก่อเหตุฆ่าคน “ต่อสู้เพื่อศาสนา” โดยมีแกนนำขบวนการ ผู้นำศาสนา และครูสอนศาสนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งวิธีการของกลุ่มโจรใต้มักกล่าวอ้างอยู่ 2 ประการด้วยกัน กล่าวคือ…

ประการแรก กล่าวอ้างว่ารัฐไทยปกครองปัตตานีด้วยความไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่ได้รับความเท่าเทียม

ประการที่สอง ร่ำร้องว่ารัฐไทยข่มเหงรังแกพี่น้องมุสลิม!! ไม่ได้รับความยุติธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย กีดกันเสรีภาพในการประกอบศาสนกิจทางศาสนา

กลุ่มขบวนการโจรใต้ใช้ 2 ประเด็นดังกล่าวเป็น “ชนวน” คอยจุดกระแสความขัดแย้ง นำไปสู่ความแตกแยก ความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นในชุมชน อีกทั้งสร้างความหวาดกลัวด้วยการข่มขู่คุกคาม “ทำร้าย” หรือไม่ก็อาศัยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ทิ้งใบปลิว แขวนป้ายผ้า กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ที่ให้ความร่วมมือรัฐ ควบคู่กับการปล่อยข่าวลือในร้านน้ำชา ในที่ชุมชน ส่งผลให้สังคมมุสลิมปั่นป่วน เพราะชาวบ้านได้รับฟังแต่เรื่องที่ไม่เป็นความจริง…

กลุ่มขบวนการโจรใต้จัดตั้ง ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ รวมทั้งครูสอนศาสนา(อุสตาส) เป็นแกนนำในหมู่บ้านจัดตั้ง แบ่งงานกันรับผิดชอบ ปฏิบัติตามสั่งการของระดับแกนนำ ปลูกฝังอุดมการณ์ให้สมาชิกแนวร่วม มีความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนา หลอกให้ทำการต่อสู้อย่างไม่กลัวตาย และหลงเชื่อว่าเป็น “นักรบของพระเจ้า” เป็นการทำสงครามเพื่อปลดปล่อยอิสลามจากการกดขี่ข่มเหงของคนต่างศาสนา…

ความพยายามของแกนนำโจรใต้ ด้วยการดึงศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้อง สร้างภาพให้เห็นว่า “คนอิสลามทุกคนคือนักรบของพระเจ้า” ถ้าใครไม่ร่วมรบจะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งแทน หรือถ้าช่วยเหลือไม่ได้ ก็ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกับกลุ่มขบวนการ ไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกคนต้องสาบานว่า จะต่อสู้เพื่อปลดปล่อยปาตานี ให้เป็นแผ่นดินดารุสสลาม โดยถือคำสาบานทุกคน ได้เปล่งวาจาออกมาด้วยความเสียสละ โดยไม่กลัวตายใดๆ ทั้งสิ้น

กลุ่มขบวนการโจรใต้ ใช้วิธีหลากหลายรูปแบบ เริ่มจากการสร้างนักรบรุ่นใหม่ ด้วยการปลูกฝังแนวความคิดความเชื่อ บิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความฮึกเหิมให้มีความกล้า ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมขบวนการยอมเป็นทาสรับใช้ โดยไม่ได้สำนึกแม้สักนิดว่า แผ่นดินที่ถูกกล่าวอ้างว่าจะปลดปล่อยให้เป็นแผ่นดินของพระเจ้านั้นแท้จริงแล้วคือ“จังหวัดปัตตานี” ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา…

การบิดเบือนข้อเท็จจริง ปลอมแปลงประวัติศาสตร์ ทำให้เชื่อว่าปัตตานี และอีกหลายจังหวัดเป็นส่วนหนึ่งของมลายู แต่ต้องเสียดินแดนให้ไทย เพราะอังกฤษเข้ามารุกราน แล้วอังกฤษก็แบ่งส่วนนี้ ให้ประเทศไทยเข้าทำการยึดครอง…

เมื่อประเทศมลายูทั้งหมด ได้รับเอกราชจากอังกฤษ แต่ประเทศไทยกลับไม่ยอมให้เอกราชแก่ปัตตานีแม้แต่ตารางนิ้วเดียว...

สิ่งเหล่านี้คือการบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

ความจริงในประวัติศาสตร์นั้น ปัตตานีและอีกหลายจังหวัด ในแหลมมลายู เป็นของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เช่น ไทรบุรี เป็นต้น ปัจจุบันนี้ก็ยังมีหมู่บ้านไทยตั้งอยู่ในรัฐกลันตัน รัฐเปอร์สิส หมู่บ้านบางหมู่บ้าน ยังมีชื่อไทยอยู่ เช่น หมู่บ้านนาคา คนไทยในประเทศมาเลเซียพูดไทยสำเนียงกรุงเทพฯ เหมือนคนบางกอกไม่มีผิดเพี้ยน!!

ประเทศไทยเสียอีก ที่เสียดินแดนให้แก่อังกฤษ เมื่ออังกฤษปล่อยมาเลเซียให้ได้รับเอกราช แทนที่ประเทศไทยจะได้ดินแดนกลับคืนมา.. แต่กลับต้องสูญเสียดินแดนไปอีกรวมแล้ว 5 จังหวัดด้วยกัน

ดินแดนปัตตานี เป็นของประเทศไทยตั้งแต่โบราณกาล แต่เนื่องด้วยคนมลายูได้อพยพเข้ามามาก ประกอบกับนับถือศาสนาอิสลาม จึงอ้างส่งเดชว่า “ไทยปกครองปัตตานีมายาวนาน ไม่ยอมให้เอกราช”

เรื่องง่ายๆ ในประวัติศาสตร์โดยแท้ แต่กลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิง ถูกโจรใต้ปาตานีแหกตา เอาไปโฆษณาชวนเชื่อ ตั้งแต่ครั้งอดีตจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบันยังไม่ยอมเลิกรา..

วิธีการที่กลุ่มขบวนการโจรใต้เอามาใช้ได้ผล นั้นคือเรื่องของการ “บิดเบือน” แล้วก็สร้างสิ่งที่บิดเบือนให้น่าเชื่อถือว่า “เป็นเรื่องจริง” โดยแอบอ้างศาสนา อ้างพระผู้เป็นเจ้า “อัลเลาะห์” เพื่อมาเรียกร้อง ความเป็นพวกเดียวกัน กับพี่น้องในพื้นที่ ซึ่งเป็นอิสลามด้วยกัน พี่น้องอิสลามผู้บริสุทธิ์ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของโจรใต้ปาตานี ขยายวงกว้างออกไปทุกทีโดยการไม่รู้เท่าทัน...

โจรใต้ปาตานี ชี้ให้เห็นว่า การปกครองที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติที่แท้จริง ต้องเป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์เท่านั้น ผู้นำของประเทศต้องใช้หลักศาสนาบริหารประเทศ แต่น่าแปลกใจกับพฤติกรรมที่ได้กระทำตรงกันข้ามอย่างป่าเถื่อน สุดโต่ง ทำการก่อเหตุทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เด็ก ผู้หญิง คนชรา โดยไม่แยกแยะเป้าหมายเพื่อปูทางไปสู่ผลประโยชน์ของกลุ่มตน..

วันนี้!! ถ้าอยากดูโฉมหน้าของผู้บงการ กับโฉมหน้าใครถูกจองตัวให้เป็นประธานประเทศ จะแตกต่างกัน...คนที่“บงการ”กับคนที่จะมาเป็น “สุลต่าน” ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน คนที่จะมาเป็นผู้นำหรือสุลต่านไม่ได้ร่วมบัญชาการรบ....แต่ทำหน้าที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ในระดับสากล

คนที่บัญชาการ ก็บัญชาการรบ ทำหน้าที่ “รบ” เป็นการจำเพาะโฉมหน้าของผู้บงการ ที่คนไทยอยากรู้ว่าเป็นใคร(?)นั้น ถ้าต้องการรู้จริงๆ ก็ไม่เกินบ่ากว่าแรงที่จะรู้ได้...

ดูได้ไม่ยากเลย ดูแล้วจะร้อง“อ๋อ”คนนี้นี่เอง ทีนี้...ถ้าอยากรู้ให้ชัด ก็ต้องค้นหาว่า“ใคร” ...คือสายเลือดของ“อับดุลกาเดร์” และใครคือสายเลือดของ“หะยีสุหลง” คนใดคนหนึ่งใน“ต้นตระกูล” นักสู้ดังกล่าวนี้คือ...จอมบงการโจรใต้อย่างแน่นอน!!

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโฉมหน้าของ “จอมบงการ” จะยังไม่ชัดก็ตามที.. แต่ภาพที่ปรากฏออกมาชัดเจนคือ การพยายามนำเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง และการพยายามผลักให้เป็นเจ้าภาพตัวจริง!!

โจรใต้ปาตานีเอง มีความ“จงใจ”ที่จะให้เจ้าภาพตัวจริงคือ  “สถาบันศาสนา” ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกระทบต่อความรู้สึก ต่อความคิดความเชื่อของผู้คน มีความพยายามชูศาสนาขึ้นมาเป็นจอมทัพ โดยพยายาม“ปั้นกรอบ” ให้เป็นภาระหน้าที่ของพี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการร่วมกันต่อสู้

แต่ในเวลาเดียวกันได้อาศัย“พลังอิสลาม”เป็นทฤษฎีชี้นำไปในตัวเสร็จพร้อม โดยเฉพาะในความเชื่อที่ว่าถ้าจัดตั้งรัฐปัตตานีดารุสสลามสำเร็จ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากชาติที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่อิสลามในพื้นที่อื่นๆ แต่เป็นพี่น้องอิสลามใน 3 จชต.และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาเท่านั้น

พวกเขาคิดการไกลขนาดนั้น ผู้เขียนพยายามที่จะกะเทาะเปลือกให้เห็นใบหน้า“จอมบงการ คือใคร?” ซึ่งตอนนี้ท่านพอจะมองออกได้แล้วว่า “คนนั้นกับคนนี้” คือจอมบงการ!! แม้ว่าโจรใต้ปาตานี จะหาทางให้ศาสนาอิสลามเป็นเจ้าภาพที่แท้จริง แต่จอมบงการที่แท้จริง!! มิใช่ศาสนา แต่เป็นคนที่มีพละกำลัง มีอำนาจ มีอิทธิพล และที่สำคัญคนๆ นั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่น้องมลายูปาตานีเท่านั้น

18 ปีไฟใต้ตลอดระยะเวลาของการสูญเสีย เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงร่ำไห้ของครอบครัวผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต้องยอมเสียสละความสุขส่วนตน แล้ววันนี้...คนที่บงการหลอกผู้คนให้ไปตายแล้วบอกว่าได้ขึ้นสวรรค์...เข่นฆ่าคนแล้วได้บุญยังคงมีให้เห็นอยู่ ในขณะที่เรากำลังควานหาตัวว่าเป็นใครอยู่นั้น... “ไฟใต้...ใครบงการ?”  เมื่อท่านอ่านจบ โปรดจำไว้ว่า...โจรใต้ปาตานีตัวจริง ป้วนเปี้ยนอยูในแวดวงการต่อสู้ อยู่ไม่ไกลจากตัวท่านหรอกครับ....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น