โครงการพาน้องกลับมาเรียน

 

“โครงการพาน้องกลับมาเรียน” เป็นการสร้างโอกาสให้เด็กที่ขาดโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม

โครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยความมุ่งหวังที่จะนำนักเรียนที่ต้องออกนอกระบบ หรือขาดโอกาสทางการศึกษาได้กลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน

จากนโยบายดังกล่าวได้นำมาสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยภายหลังได้รับหนังสือแจ้งให้สำรวจนักเรียนที่ออกนอกระบบ โรงเรียนบ้านปลักปลา อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 จึงเร่งทำการสำรวจนักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ แล้วพบว่ามี 1 ราย คือเด็กชายมาหามะอาดำ กรีติง ที่เพิ่งจบชั้นประถมศึกษาีที่ 6 หายไปจากระบบการศึกษา จึงเริ่มแผนปฏิบัติการตามกระบวนการ “พาน้องกลับมาเรียน”ทันที จึงพบว่าเด็กนักเรียนอยู่กับปู่ โดยพ่อแม่หย่าร้างกัน ปู่มีฐานะยากจน มีภาระค่าใช้จ่ายมากจนไม่สามารถส่งเด็กนักเรียนให้ได้รับการศึกษาได้

นายนูรุลฮัมดี บูกุ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปลักปลา กล่าวว่า หลังจากสอบถามความสมัครใจของเด็กว่าอยากเรียนต่อหรือไม่ และถามปู่ว่าหากสามารถเรียนฟรีได้จะยินดีให้เด็กเรียนต่อหรือไม่ ซึ่งได้รับการตอบรับว่าเด็กอยากเรียนต่อ และปู่ก็ยินดีให้เรียนหากเป็นการเรียนฟรีที่ไม่เพิ่มภาระกับทางบ้าน ดังนั้นจึงได้ติดต่อไปทางโรงเรียนอามีนียะห์ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส แต่เนื่องจากติดต่อไปหลังวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีการกรอกชื่อนักเรียนเข้าระบบทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายบางส่วน คือ ค่าหมวกซอเกาะ และชุดพละที่ต้องออกค่าใช่จ่ายเอง นอกเหนือจากค่าชุดแต่งกาย ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าอาหารกลางวัน ค่าเดินทางไปกลับบ้าน-โรงเรียนที่ให้ฟรีทั้งหมด ซึ่งส่วนที่ต้องจ่าย ทางผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปลักปลาได้ช่วยชำระให้ หลังจากนั้น เด็กคนหนึ่งที่เกือบหายไปจากระบบการศึกษาจึงได้กลับเข้าระบบได้เรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ด้วยเงินศูนย์บาท

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปลักปลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการออกนโยบายนี้ขึ้นมา ทำให้เราได้รับทราบว่าเด็กนักเรียนของเรายังอยู่ในระบบหรือออกนอกระบบไปแล้ว หากหลุดออกจากระบบก็จะได้ประสานเพื่อให้ความช่วยหลืออย่างเหมาะสมต่อไป สำหรับกรณีเด็กชายมาหามะอาดำ กรีติง ทั้งผู้บริหารและคณะครูของโรงเรียนบ้านปลักปลาต่างรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยหยิบยื่นโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนอีกครั้ง

เด็กชายมาหามะอาดำ กรีติง กล่าวว่า ทางครอบครัวมีฐานะยากจน คิดว่าตนเองจะไม่ได้เรียนหนังสืออีกแล้ว เพราะปู่ไม่มีเงินส่งให้เรียนต่อ เมื่อได้รับการติดต่อจากผู้อำนวยการโรงเรียนและครูจากโรงเรียนบ้านปลักปลาซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมของตนจึงรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาเรียนหนังสือ และตนจะตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ให้สมกับโอกาสที่ได้รับ เพราะเชื่อว่าการศึกษาจะทำให้เป็นคนที่มีความรู้และจะมีอนาคตที่ดีขึ้น

ด้านนายสุพจน์ มณีรัตนโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ระบุ จากการสำรวจโรงเรียนในสังกัด ตามโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” พบว่านักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดหายไปจากระบบ จำนวน 370 คน ซึ่งปัญหาที่พบคือ จำนวน 363 คน มีปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัวยากจน จบการศึกษาแล้วไม่ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และอีกส่วนหนึ่งเปลี่ยนไปเรียนโรงเรียนปอเนาะ ส่วนอีก7 รายคาดว่าครอบครัวจะพาย้ายไปต่างพื้นที่จากสถานการณ์โควิด-19

อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เน้นย้ำให้นำนักเรียนที่หายไปจากระบบกลับมาเรียน รวมทั้งชักชวนเด็กที่ในเกณฑ์เข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับ ให้เข้าสู่ระบบการศึกษาจึงได้มีการจัดทำแผนเชิงรุก ด้วยการประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน กับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนในด้านต่างๆที่ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กนักเรียนเหล่านี้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม