ทำไม ผู้ก่อการร้าย
ตัดสินใจทำร้ายพี่น้องมุสลิมบริสุทธิ์ในเดือนรอมฎอน
"รอมฎอน" คือเดือนที่ 9
ตามปฏิทินฮิจญ์เราะฮ์ในศาสนาอิสลาม เป็นเดือนที่มุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน
เดือนนี้ ยังเป็นเดือนที่อัล-กุรอาน ได้ถูกประทานลงมาเป็นทางนำให้กับมนุษย์
มุสลิมจึงต้องอ่านอัล-กุรอาน เพื่อศึกษาถึงสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า
ต้องการให้มนุษย์รู้ว่า การเป็นอยู่ในโลกนี้ และโลกหน้าจะเป็นอย่างไร ? จะต้องปฏิบัติธรรม
เพื่อตนเองอย่างไรบ้าง “การถือศีลอด” ที่แท้จริงจะสามารถป้องกัน และปรับปรุงตัวของผู้ที่ถือศีลอดเองและจะส่งผลดี
ต่อสังคมโดยนำสังคมไปสู่“สันติสุข”เพราะสังคมจะปราศจากความชั่ว
อบายมุขและเต็มไปด้วยความดี
ในขณะที่พี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่ปฏิบัติศาสนกิจ
อย่างเข้มงวดในเดือนรอมฎอน ต่างมุ่งกระทำความดี ปฏิบัติตามหลักการที่ศาสนบัญญัติ
กลับมีกลุ่มสุดโต่งนอกศาสนา ได้สร้างความรุนแรงในห้วงเดือนอันประเสริฐขึ้น
ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน และสร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
โดยล่าสุดคนร้ายลอบยิงนายอับดุลมูตอเละ อาเเว “บาบอเละ”
อุสตาซชื่อดังในพื้นที่ ม.5 บ้านกูแบกีแย ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิต
เมื่อ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะกำลังกลับเข้าบ้าน #หลังเสร็จจากการร่วมละหมาดตะรอเวี้ยะห์ที่มัสยิดในหมู่บ้าน
และได้แวะเข้าไปที่ฐานปฏิบัติการชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)
ซึ่งตั้งอยู่อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน เพื่อพุดคุยให้กำลังใจชาวบ้านที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลชุมชน
และดื่มน้ำชา กาแฟ
สำหรับนายอับดุลมูตอเละ
อาเเว #เป็นบุคคลหนึ่งทุ่มเทเสียสละ #อุทิศตนให้กับสังคมด้านศาสนา
เป็นครูสอนตาดีกาให้กับเด็กในหมู่บ้านเป็นเวลานาน
ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง
จากความสูญเสียดังกล่าวจะเห็นได้ว่า
ผู้ก่อการ้าย กระทำต่อผู้อ่อนแอไร้ทางต่อสู้โดยไม่แยกแยะเป้าหมาย
เด็กและผู้หญิง ต้องมาสังเวยชีวิตด้วยน้ำมือของชัยฏอน
อีกทั้งยังลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่
ขณะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องมุสลิม ในการเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาอาหาร
เพื่อเตรียมละศีลอด
พฤติกรรมของผู้ก่อการร้าย ที่ตัดสินใจทำร้ายพี่น้องมุสลิมบริสุทธิ์ ในห้วงเดือนรอมฎอน เดือนแห่งบุญ ผู้ก่อเหตุมีความโหดร้ายป่าเถื่อน มีการวางแผนก่อนลงมือก่อเหตุ เป็นพวกที่ไม่มีศาสนา ประตูนรกจะเปิดรับกลุ่มสุดโต่งรอมฎอน ถือเป็น “มรดกบาปทางความคิด” ที่ถูกบิดเบือน และหลอกให้เข้าสู่ “วงจรอุบาทว์” ซึ่งอาชญากรเหล่านี้นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แล้วจะต้องได้รับผลกรรมตามบทบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม
จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้รวมพลังอันบริสุทธิ์ต่อต้านและประณามกันอย่างกว้างขวางต่อการกระทำและพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ร้าย เพื่อไม่ให้คนพวกนี้มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น