สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง
สร้างสันติสุขสู่ชายแดนใต้
........สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง คือ....สิ่งที่ BRN กลัวยิ่งกว่าอาวุธ
สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าอาวุธไหน
ๆ ในการสร้างความแตกแยก คือความรักความสามัคคี
การที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ร่วมกันภายใต้“สังคมพหุวัฒนธรรม”
(MULTICULTURAL-SOCIETY)
ถึงแม้ว่าหลายท่านอาจจะไม่เห็นด้วย
และคัดค้านตั้งคำถามอยู่ในใจว่าจริงหรือ?
การพยายามก่อเหตุในห้วงที่ผ่านจะเห็นว่ามุ่งเน้นไปที่
เป้าหมายคนไทยพุทธ จนเหตุการณ์ณืล่าสุด ลอบวางระเบิด ช่วงที่พระสงฆ์กำลังบิณฑบาต
เพื่อหวังให้คนไทยพุทธเกิดความเกลียดชังในพี่น้องมุสลิม เพื่อให้ความแตกแยก
แตกสามมัคคดี ง่ายต่อกลุ่มผู้ไม่หวังดีในการมาปุกปั่น ให้พื้นที่จังชายแดนภาคใต้ร้องระอุขึ้นมาอีกครั้ง
การหวังที่จะสร้างความหวาดกลัว
ความหวาดระแวงให้ ผู้คนในชุมชนที่เคยมีความรักความสามัคคีกลมเกลียวกันค่อยๆ
ถูกทำลายทีละน้อยทีละนิดจนกระทั่งค่อยๆเลือนหายไป สร้างแรงกดดัน ความเกลียดชัง
ของผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม มีการก่อเหตุย่ำยีจิตใจของผู้นับถือศาสนาพุทธ
ด้วยการหวังเข่นฆ่าพระภิกษุสงฆ์ขณะกำลังบิณฑบาต
เหตุการณ์ที่
ผกร.สร้างขึ้น เพื่อต้องการทำลายในสิ่งที่ขบวนการกลัวคือ
“สังคมพหุวัฒนธรรม”ไม่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้สงบสุขและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
เพราะเมื่อไหร่ที่สังคมเข้มแข็ง ผู้คนมีความรักความสามัคคี
ชุมชนสามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับคนในชุมชนและครอบครัวตนเองได้
เมื่อนั้นสังคมจะโดดเดี่ยวกลุ่มขบวนการ และไม่สามารถทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น