เมื่อ 9
ธันวาคม 2564 ดร.ยูซุฟ บิน อับดุลลอฮ์ อัลฮัมมุดี้
ที่ปรึกษากิจการศาสนาสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย
เดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่ จ.ปัตตานี อย่างไม่เป็นทางการ โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผศ.ดร.อาลี สาเมาะ รองผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้การต้อนรับ นอกจากนี้ ยังมี พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร
ตัวแทนจากแม่ทัพภาค 4 ส่วนหน้า พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ รอง
ผบก.จ.ปัตตานี นายสุไลมาน แวมามะ อุปนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย
พร้อมกับสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และแขกผู้มีเกียรติร่วมรับประทานอาหาร ที่โรงแรมรีเวอร์ จ.ปัตตานี อย่างอบอุ่น
การเดินทางมาครั้งนี้
ดร.ยูซุฟ บิน อับดุลลอฮ์ อัลฮัมมุดี้ ที่ปรึกษากิจการศาสนาสถานทูตซาอุดีอาระเบีย
ประจำประเทศไทย ต้องการพบปะและขอบคุณ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมโครงการด้านสาธารณประโยชน์แก่สังคม
ร่วมกันสร้างสร้างติสุขร่วมกัน
โดยเฉพาะกิจกรรมมอบกล่องของขวัญให้แก่พี่น้องชาวมุสลิมห้วงเดือนรอมฎอน ในโครงการ
“ละศีลอดกษัตริย์ซัลมาน บิน อาซีซ” กษัตริย์แห่งประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
และได้เล่าความรู้สึกดีความผูกพันที่มีต่อประเทศไทยหลายปีที่ได้ปฏิบัติภารกิจ
ประเทศไทยอบอุ่น เหมือนบ้านหลังที่สอง
พร้อมได้มอบของที่ระลึกของขวัญจากกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และมอบใบประกาศเกียรติคุณ
โล่เชิดชูเกียรติจากสถานทูตซาอุดีอาระเบีย
ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้สนับสนุนในการร่วมกิจกรรมที่ผ่านมาด้วย
อีกหนึ่งความประทับใจที่สุดคือ การได้ผ้าคลุมกะบะฮฺ หรือผ้ากิสวะฮฺ
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่จะได้มาครอบครอง
นายสุไลมาน
แวมามะ อุปนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย สื่อมวลชนในพื้นที่
และหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลโล่เชิดชูเกียรติ ได้กล่าวแสดงความรู้สึกดีใจว่า
ต้องขอขอบคุณท่านอุปทูตซาอุดีอาระเบียที่ได้เดินทางมาพบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการและเป็นกันเองมาก
ได้กล่าวความรู้สึกดีมากๆ ต่อชาวไทยทุกคน และได้มาสร้างประโยชน์มากมายในพื้นที่
จชต. โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม อีกทั้งยังให้ของฝาก ของขวัญที่ล้ำค่าทางจิตใจ
เป็นกำลังใจที่ดีให้คนในพื้นที่
โดยเฉพาะสื่อมวลชนได้มีแรงกระเพื่อมในการสร้างสรรค์ข่าวที่ดีมีประโยชน์ในพื้นที่ต่อไป
และครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับสานสัมพันธ์ที่ดีทั้งไทย-ซาอุดีอาระเบีย
การได้มารวมกันอย่างเป็นกันเองระหว่างผู้เข้าร่วมถือเป็นเจ้าบ้านของไทย
และแขกคนสำคัญอย่างอุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย อย่างไม่เป็นทางการ
ได้มานั่งพบปะ พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ร่วมสร้างสันติสุขร่วมกัน
ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ได้อำลาพี่น้องชาวไทยมุสลิม ก่อนที่อุปทูตฯ จะกลับไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย
เพื่อไปรับตำแหน่งใหม่ที่สูงขึ้น และจะกลับไปเรียนถึงกษัติย์ซาอุดีอาระเบีย
เพื่อให้คนไทยได้ความช่วยเหลือ และเอื้ออำนวยความสะดวกในอีกหลายมิติต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น