❌หยุดบิดเบือนยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยกในพื้นที่ จชต.
ประเทศไทยนั้นมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน
ทุกคนมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว
รัฐสนับสนุนพหุวัฒนธรรม ประเพณี อัตลักษณ์ท้องถิ่น อย่างเต็มที่ ไม่เคยมีใครไปขัดขวางปิดกันการแสดงออกทางอัตลักษณ์ภาษาวัฒนธรรม
รัฐมีแต่จะส่งเสริมเพื่อจะรักษาอัตลักษณ์วิถีชีวิตของชุมชน
ปัจจุบันพี่น้องไทยมุสลิมใช้ชีวิตสงบสุขตามหลักของศาสนาอิสลาม
และรัฐยังให้การสนับสนุนในการประกอบศาสนกิจทางศาสนา เช่น การสนับสนุนเงินบำรุงมัสยิด
เงินค่าตอบแทนครูตาดีกา (ล่าสุดนี้เพิ่มเงินค่าตอบแทน) และยังสนับสนุนเที่ยวบินในการแสวงบุญที่
นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประจำทุกปี
การนำนักการศาสนาอิสลามที่มีเชื่อเสียงมาพบปะบรรยายธรรมให้กับพี่น้องไทยมุสลิมเป็นประจำทุกปี
และการมอบอินทผาลัมให้พับพี่น้องไทยมุสลิมในเดือนรอมฎอน
และที่สำคัญประเทศไทยก็ไม่เคยไม่มีการกดขี่ ไม่มีการละเมิดสิทธิ
ทุกคนยังคงอยู่ในแผ่นดินเดิมของบรรพบุรุษตนเอง
มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินของตนเองถูกต้องตามกฎหมาย
สังคมจะสงบสุขได้อย่างไร
ถ้ายังมีกลุ่มคน นักการเมือง (บางกลุ่ม)
พยายามบิดเบือนยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกให้กับสังคมในพื้นที่ด้วยการกล่าวหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐว่าทำลายอัตลักษณ์ในพื้นที่
ทั้งที่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นมีแต่สนับสนุนเพื่อให้เกิดการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม
โดยมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจ “ลดความขัดแย้ง” ความหมายของพหุวัฒนธรรม คือ
ความหลากหลายทาง วิถีชีวิต ความเชื่อ ศาสนาและประเพณีปฏิบัติ
ที่มีความเหมือนและความต่างจากวัฒนธรรมอื่นๆ โดยเน้นการยอมรับซึ่งกันและกัน
ซึ่งจะทำให้สังคมมีความสงบสุขและสันติได้
#หยุดยุยงปลุกปั่น
#หยุดสร้างความแตกแยก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น