วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

ทำไมโจรใต้ ต้องฆ่าคนในเดือนรอมฎอน? หลงผิดหรือคิดต่าง

ทำไมโจรใต้ ต้องฆ่าคนในเดือนรอมฎอน? หลงผิดหรือคิดต่าง

เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการถือศีลและศึกษาพระคัมภีร์สำหรับชาวมุสลิม เหตุใดกลุ่มโจรใต้รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมสุดโต่งทั่วโลก จึงหันมาใช้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการระดมพล ก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์

เดือนรอมฎอน เป็นเดือนเป็นเดือนที่ 9 ของปฏิทินอิสลาม มุสลิมทุกคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ต้องอดอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิดตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งอาทิตย์ตก หรือที่เรียกว่าการถือศีลอด นอกจากนี้ในระหว่างเดือนรอมฎอน มุสลิมจะวิงวอนขออภัยโทษถึงความผิดที่ผ่านมากจากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ได้รับการนำทางที่ถูกต้อง และให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย รวมถึงอ่านคัมภีร์อัลกุรอานให้มากที่สุด

ทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรสอดคล้องกับปรากฏการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันทั่วโลกในเดือนรอมฎอน นั่นก็คือการที่กลุ่มโจรใต้ ใช้เดือนแห่งการถือศีลนี้ เป็นห้วงเวลาก่อเหตุร้ายรายวันพร้อมๆกัน โดยก่อเหตุที่อ้างว่าต้องการให้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความเจ็บปวดสำหรับพวกนอกรีต และการโฆษณาชวนเชื่อนี้ก็ทำให้กลุ่มคนบางคนที่มีแนวความคิดสุดโตงมักจะหลงผิด ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริสุทธิ์ได้ผล เพราะ 19 ปี ที่ผ่านมา มีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อโจรใต้ หลายคนต้องเสียชีวิต หลายคนต้องพิการ ถือเป็นเดือนรอมฎอนที่นองเลือดที่สุดในรอบหลายปี

หลายคนพยายามหาเหตุผลที่เดือนรอมฎอน ถูกนำมาใช้เป็นเดือนแห่งการฆ่า โดยระบุว่าเหตุผลประการแรกก็คือความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ศาสดามูฮัมหมัดฯ ได้ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาดครั้งแรกในเดือนรอมฎอน และก็ชนะสงครามในอีก 8 ปีต่อมาในเดือนรอมฎอน จนได้ครอบครองนครมักกะ ที่ตั้งของหินกะบะห์ หนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม

ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเชื่อสืบต่อกันมาในคนมุสลิมบางกลุ่มว่าการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาด เป็นส่วนหนึ่งของการบำเพ็ญตนเพื่อศาสนา และเป็นหนทางหนึ่งที่จะได้ใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้า นักรบญิฮาดบางคนในอัฟกานิสถานถึงกับกล่าวว่าการละทิ้งญิฮาด ก็ไม่ต่างจากการไม่ถือศีลอดหรือสวดมนต์ภาวนา

การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาดในเดือนศักดิ์สิทธิ์ อย่างเดือนรอมฎอนจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร

สำหรับกลุ่มหัวสุดโต่ง ในเมื่อเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมมีหน้าที่ถือศีลสวดมนต์ภาวนา และอ่านพระคัมภีร์ให้มากกว่าปกติ การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาด ก็ควรจะเกิดขึ้นมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน

ชาวมุสลิมทั่วไปไม่ได้เห็นด้วยกับการตีความแบบนี้ แต่กลุ่มโจรใต้หรือแม้แต่กลุ่มก่อการร้ายทั่วโลก ใช้การตีความประวัติศาสตร์ศาสนา สร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่ม โดยถือว่าการก่อเหตุในเดือนรอมฎอน เป็นการสำแดงแสนยานุภาพของกลุ่มตนเองอย่างได้ผล

โดยเฉพาะในเชิงจิตวิทยา การสร้างความหวาดกลัว การก่อเหตุนองเลือดในช่วงเวลาของการถือศีลเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมรุนแรงมากกว่าในช่วงเวลาปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยความชอบธรรมของกลุ่มที่จะถูกตั้งคำถามจากชาวมุสลิมด้วยกันมากขึ้น ว่าเหตุใดผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม จึงเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนแห่งการแสวงบุญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น