ทำไมโจรใต้
ต้องฆ่าคนในเดือนรอมฎอน?
หลงผิดหรือคิดต่าง
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการถือศีลและศึกษาพระคัมภีร์สำหรับชาวมุสลิม
เหตุใดกลุ่มโจรใต้รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมสุดโต่งทั่วโลก
จึงหันมาใช้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการระดมพล ก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์
เดือนรอมฎอน
เป็นเดือนเป็นเดือนที่ 9 ของปฏิทินอิสลาม
มุสลิมทุกคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ต้องอดอาหาร
และเครื่องดื่มทุกชนิดตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งอาทิตย์ตก
หรือที่เรียกว่าการถือศีลอด นอกจากนี้ในระหว่างเดือนรอมฎอน
มุสลิมจะวิงวอนขออภัยโทษถึงความผิดที่ผ่านมากจากพระผู้เป็นเจ้า
ขอให้ได้รับการนำทางที่ถูกต้อง และให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย
รวมถึงอ่านคัมภีร์อัลกุรอานให้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้
ไม่มีอะไรสอดคล้องกับปรากฏการณ์หนึ่ง
ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันทั่วโลกในเดือนรอมฎอน นั่นก็คือการที่กลุ่มโจรใต้
ใช้เดือนแห่งการถือศีลนี้ เป็นห้วงเวลาก่อเหตุร้ายรายวันพร้อมๆกัน
โดยก่อเหตุที่อ้างว่าต้องการให้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความเจ็บปวดสำหรับพวกนอกรีต
และการโฆษณาชวนเชื่อนี้ก็ทำให้กลุ่มคนบางคนที่มีแนวความคิดสุดโตงมักจะหลงผิด
ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริสุทธิ์ได้ผล เพราะ 19 ปี ที่ผ่านมา
มีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อโจรใต้ หลายคนต้องเสียชีวิต หลายคนต้องพิการ
ถือเป็นเดือนรอมฎอนที่นองเลือดที่สุดในรอบหลายปี
หลายคนพยายามหาเหตุผลที่เดือนรอมฎอน
ถูกนำมาใช้เป็นเดือนแห่งการฆ่า
โดยระบุว่าเหตุผลประการแรกก็คือความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ศาสดามูฮัมหมัดฯ ได้ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาดครั้งแรกในเดือนรอมฎอน
และก็ชนะสงครามในอีก 8 ปีต่อมาในเดือนรอมฎอน จนได้ครอบครองนครมักกะ
ที่ตั้งของหินกะบะห์ หนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม
ด้วยเหตุนี้
จึงมีความเชื่อสืบต่อกันมาในคนมุสลิมบางกลุ่มว่าการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาด
เป็นส่วนหนึ่งของการบำเพ็ญตนเพื่อศาสนา
และเป็นหนทางหนึ่งที่จะได้ใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้า
นักรบญิฮาดบางคนในอัฟกานิสถานถึงกับกล่าวว่าการละทิ้งญิฮาด
ก็ไม่ต่างจากการไม่ถือศีลอดหรือสวดมนต์ภาวนา
การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาดในเดือนศักดิ์สิทธิ์
อย่างเดือนรอมฎอนจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร
สำหรับกลุ่มหัวสุดโต่ง
ในเมื่อเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมมีหน้าที่ถือศีลสวดมนต์ภาวนา
และอ่านพระคัมภีร์ให้มากกว่าปกติ การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาด
ก็ควรจะเกิดขึ้นมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน
ชาวมุสลิมทั่วไปไม่ได้เห็นด้วยกับการตีความแบบนี้
แต่กลุ่มโจรใต้หรือแม้แต่กลุ่มก่อการร้ายทั่วโลก ใช้การตีความประวัติศาสตร์ศาสนา
สร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่ม โดยถือว่าการก่อเหตุในเดือนรอมฎอน
เป็นการสำแดงแสนยานุภาพของกลุ่มตนเองอย่างได้ผล
โดยเฉพาะในเชิงจิตวิทยา
การสร้างความหวาดกลัว การก่อเหตุนองเลือดในช่วงเวลาของการถือศีลเช่นนี้
จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมรุนแรงมากกว่าในช่วงเวลาปกติ
แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยความชอบธรรมของกลุ่มที่จะถูกตั้งคำถามจากชาวมุสลิมด้วยกันมากขึ้น
ว่าเหตุใดผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม
จึงเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนแห่งการแสวงบุญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น