วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2567

การเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพหรือเพื่อใคร?

การเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพหรือเพื่อใคร?

ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (คปส.) ร่วมกับสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและพัฒนา (LEMPAR), สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH/สนมท.), สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) และชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ม.อ.ปัตตานี เครือข่ายภาคประชาสังคมกำมะลอเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างมีนัยซ่อนเร้น ยังคงเดินหน้าหลอกหลอนให้ประชาชนมลายูปาตานี หลงเชื่อกับคำโกหกหลอกลวงมาโดยตลอด ปัญหาที่ควรจะเคลื่อนไหว เพื่อเป็นปากเสียงแทนประชาชน กลับละเลยไม่แยแสกลับมุ่งเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและองค์กรเป็นหลัก

การใช้วาทกรรม “กลั่นแกล้งประชาชนกับสันติภาพปัตตานี” นายตูแวดานียา ผู้นี้คือผู้ที่ค้นคิดวาทกรรมใหม่ๆ มาสาธยายบนเวทีเสวนา ให้ติดปากติดหู เพื่อมุ่งทำลายสันติภาพที่ควรจะเป็นภัยแทรกซ้อนที่มีผลกระทบกับประชาชนรากหญ้าอย่างปัญหายาเสพติด ลูกหลานพี่น้องปาตานีทุกหย่อมหญ้าในพื้นที่ต่างตกเป็นทาสของกลุ่มนายทุนค้ายา เพื่อนำเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มขบวนการในการก่อเหตุ

แต่น่าแปลกใจเครือข่ายภาคประชาสังคมเหล่านี้ ไม่เคยกล่าวถึงและรณรงค์ต่อต้าน แถมกลับทำเงียบเฉยไม่รับรู้ปล่อยให้มหันตภัยเงียบเข่นฆ่าลูกหลาน ผู้ปกครองต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็นยิ่งกว่าปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่นายตูแวดานียา จุดประเด็นซะอีก

ส่วนปัญหาศาลแพ่ง สั่งยึดที่ดินโรงเรียนปอเนาะญีฮาด เช่นเดียวกัน เรื่องราวต่างๆ น่าจะจบลงด้วยดีอย่างมีเหตุมีผลและสมควรแก่เหตุ แต่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อกลุ่มขบวนการ (ไม่ใช่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพที่ได้มีการกล่าวอ้าง) กลับสร้างละคร ดราม่าน้ำเน่าไม่ต่างจากละครช่องหลายสี ปลุกปั้นพระเอกหน้าใหม่ นายบันยาล แวมะนอ ลูกชายของ นายดอเลาะ แวมะนอ อดีตผู้ร้ายตัวจริงให้โลดแล่นบนเวทีเสวนาเป็นตัวชูโรงเรียกคะแนนสงสารกล่าวหารัฐกลั่นแกล้งประชาชน ต้องตกระกำลำบาก กลายเป็นพจมานเร่ร่อนหอบข้าวของออกจากบ้านทรายทอง ไม่มีที่ซุกหัวนอน

การสร้างภาพกับข่าวสารที่ออกไปช่างแตกต่างจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง จากแหล่งข่าวในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ความจริง“ครอบครัวแวมะนอ”ไม่ได้ลำบากยากจนขันแค้น ตามที่คนทั่วไปเข้าใจกัน ลองไล่เรียงกลับพบว่า มีฐานะร่ำรวยกันหลายๆ คนในบรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดของครอบครัวนี้

ผู้เขียนมีความสงสัยทำไม? ต้องแอบไปจัดเวทีเสวนาตามมัสยิด ก่อนจะละหมาดวันศุกร์ทุก ๆ ครั้งในพื้นที่ หรือเพื่อเป็นการตอกย้ำอะไรหรือเปล่า สิทธิเสรีภาพในการจัดเวทีเสวนาที่ไหนไม่มีใครว่า แต่ในขณะที่ผู้นำองค์กรทางศาสนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังมีการตั้งกรรมการพิเศษขึ้นมาคณะหนึ่งในการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และตอบสนองเจตนารมณ์เดิมของเจ้าของที่ดินต่อไปให้เป็นรูปธรรม แต่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อกลุ่มขบวนการ (ไม่ใช่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพที่ได้มีการกล่าวอ้าง) สร้างเฟสบุ๊ค เว็บเพจ คอยประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวโจรใต้ เพื่อระดมทุน มีการปลุกปั่นไม่ให้รับความช่วยเหลือจากรัฐ มุ่งเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ในการเสวนา เพื่อต้องการผลทางจิตวิทยาสังคม ซึ่งส่วนมากผู้ที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาโดยเครือข่ายแนวร่วม

ฝากไปยังประชาชนปาตานี ให้ช่วยกันจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมภาคประชาสังคมในพื้นที่ที่ออกมาเคลื่อนไหวสร้างกระแส กล่าวอ้างถึงการไม่ได้รับความเป็นธรรมทางสังคม และยังมีความพยายามดึงองค์กรต่างประเทศเข้ามามีบทบาทในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเรา อีกทั้งมีการปลุกกระแสต่อต้านรัฐ โดยใช้ประเด็นต่าง ๆ สร้างปัญหาในพื้นที่ เพื่อยกระดับความขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการระดมมวลชนให้เข้าร่วม จุดกระแสสร้างภาพ นำเรื่องราวที่อ่อนไหวและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนมาเล่น แต่กลับไม่แยแสถึงความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกรทบจากภัยแทรกซ้อนด้านอื่นๆ และที่สำคัญไม่เคยเห็นองค์กรภาคประชาสังคมเหล่านี้ คอยเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำที่รุนแรงของกลุ่มขบวนการที่ทำการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์รายวัน

อีกทั้งมีนัยแอบแฝงในการเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพจริงหรือ?....หรือเคลื่อนไหวเพื่อใครกันแน่?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น