นายสมศักดิ์
เทพสุทิน เยือนกัวลาลัมเปอร์ พบรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงมาเลเซีย หารือ 5 ประเด็น
ร่วมพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน แก้ปัญหาความมั่นคงดับไฟใต้
มาเลย์รับปากให้ข้อมูลสำคัญ “ผู้เห็นต่างจากรัฐ” ที่เข้าเมืองเพื่อหลบหนี
เมื่อวันพฤหัสบดีที่
30 พ.ย.66 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
รองนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ประกอบด้วย พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. และ นายชนธัญ แสงพุ่ม
รองเลขาธิการ ศอ.บต. เข้าพบ YAB Dato Seri Dr. Ahmad Zahid Hamidi รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซีย
เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
วงประชุมหารือใน
5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย
1.ด้านการศึกษา
โดยรองนายกฯมาเลย์
ขอให้รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
เพราะมีบทบาทสำคัญต่อประชาชนในพื้นที่ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมาก
จำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น
การส่งเสริมให้ศึกษาต่อในหลักสูตรวิศวกรรมการบิน
ทำให้เด็กนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาเข้าสู่อาชีพได้เป็นจำนวนมาก
และไปทำงานในต่างประเทศไดด้วย
นอกจากนั้นยังเสนอให้มีหลักสูตรอาชีวศึกษา
จัดโปรแกรมการฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อป้อนคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
2.ด้านการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุน
ประเด็นนี้มีข้อเสนอให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนของมาเลเซียเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมากขึ้น
โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการขอทั้งสองประเทศ
3.ด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดน
ไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องด่านศุลกากรที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
(นายกฯของทั้งสองประเทศเพิ่งไปพบปะหารือ) เท่านั้น
แต่ยังต้องเน้นลดเงื่อนไขข้อจำกัดทางกฎหมายให้มากขึ้น เช่น
การกำหนดเขตสินค้าปลอดภาษี (Duty Free Zone) หรือสินค้านำเข้าต่างๆ
ที่ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความต้องการร่วมกัน
ข้อแนะนำให้จัดตั้ง
“คณะทำงานพิเศษ”
เพื่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเขตเศรษฐกิจและการกำหนดสำนักงานเขตพัฒนาร่วมไทย-มาเลย์
เพื่อผลักดันกระบวนการทำงานต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
มีผลสัมฤทธิ์ในระยะเวลาอันสั้น
4.ด้านอุทกภัยร่วมกันของไทยและมาเลเซีย
มีข้อเสนอเรื่องการวางแผนการจัดการภัยพิบัติพื้นที่ร่วมชายแดนไทย-มาเลเซีย
โดยเฉพาะการทำแผนการจัดการป้องกันระบบน้ำท่วม, การทำแผนอพยพ
5.ด้านความมั่นคง
ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น อาทิ
การให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผู้เห็นต่างจากรัฐในกรณีของการเข้าเมืองเพื่อหลบหนี, ข้อกฎหมายจากการกระทำผิดกฎหมายในประเทศนั้น, ความร่วมมือการแก้ไขปัญหายาเสพติด
และความมั่นคงอื่นๆ ซึ่งจะมีการแต่งตั้ง “คณะทำงาน”
หรือมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือและวางแผนร่วมกันในระยะต่อไป
รองนายกฯมาเลเซีย
ให้คำมั่นว่า
จะดำเนินการทุกสิ่งเพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรือง
พร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในทุกประเด็นตามที่นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้มีการศึกษาหารือและเห็นชอบการทำงานร่วมกันใน
4 ประเด็น ได้แก่ ด้านความมั่นคง ด้านการค้าชายแดน ด้านการท่องเที่ยว
และด้านการเกษตร ซึ่งจะต้องดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น