จากกรณี
ที่มีการเผยแพร่ คำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงวันที่ 9
ม.ค.66
แต่งตั้งคณะทำงานติดตามตรวจสอบกิจกรรมที่มีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ของภาคประชาสังคม
และด้านการเมือง ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงเจตนาและหน้าที่คณะทำงานชุดดังกล่าวในวงกว้าง
ล่าสุด
พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 /โฆษก กอ.รมน.ภาค 4
ได้เปิดเผยถึงการตั้งคำสั่งคณะทำงานชุดดังกล่าวว่า
เป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานในระดับเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค
4 ส่วนหน้า โดยเป้าหมายของการตั้งคำสั่งคณะทำงานติดตามตรวจสอบดังกล่าว เพื่อรวบรวม
วิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลการดำเนินการที่เข้าข่ายละเมิดต่อหลักกฎหมายเท่านั้น
คณะทำงานชุดนี้
ไม่ได้มีบทบาทหน้าที่ในการเข้าไปชำระ หรือตัดสิน ถูก-ผิด ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
หรือเข้าไปคุกคาม ขัดขวาง การแสดงออกเชิงอัตลักษณ์
รวมถึงไม่ได้เข้าไปขัดขวางการศึกษาเรียนรู้
แหล่งประวัติศาสตร์อันงดงามของท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สืบเนื่องจากการเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐาน
การก่อเหตุของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ที่ผ่านมา พบว่า
ปัจจัยที่นำไปสู่การใช้ความรุนแรง มีการนำเงื่อนไข ทางเชื้อชาติ ศาสนา
และมาตุภูมิหรือความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ มาบ่มเพาะกลุ่มเยาวชน
เพื่อสร้างความเกลียดชัง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้
การแสดงออกซึ่งอัตลักษณ์และประวัติศาสตร์อันดีงามของพื้นที่
ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่สามารถแสดงออกได้ตามรัฐธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย
และเป็นที่รัฐส่งเสริมและสนับสนุนเสมอมา แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มักมีการแอบแฝงกิจกรรมการแสดงออกเชิงอัตลักษณ์
ที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง เพื่อสร้างความเกลียดชัง อันจะนำไปสู่ความรุนแรง
จึงได้มีการตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้การติดตาม
รวบรวม ตรวจสอบ เฉพาะประเด็นที่มีการบิดเบือน หรือละเมิดต่อกฎหมายเท่านั้น
เพื่อใช้ในการดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประการสำคัญ คณะทำงานชุดดังกล่าว
ไม่ได้มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ขัดขวางการแต่งกายด้วยชุดมลายูตามที่หลายคนกังวลแต่อย่างใด
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค
4 ส่วนหน้า ยังคงมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยสันติวิธีเป็นสำคัญ
เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่
ขอสังคมและประชาชนอย่าเข้าใจเจตนารมณ์ของการตั้งคณะทำงานชุดนี้
ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น