แม้เป็นช่วงปลายรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข
เพื่อแสวงหาสันติภาพในดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังเดินหน้าต่อไป
เมื่อวันศุกร์ที่
3 ก.พ.66 พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ
หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝ่ายรัฐบาลไทย ได้ให้การต้อนรับ
พล.อ.ตันสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน
ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้คนใหม่
ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลมาเลเซีย
ในโอกาสเดินทางมาแนะนำตัวและทำความรู้จักซึ่งกันและกันในหลังรับตำแหน่งใหม่
ก่อนหน้านี้
พล.อ.ตันสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ได้ไปพบกับทางฝ่ายขบวนการ BRN ที่มาเลเซียมาแล้ว ซึ่งขบวนการ BRN ก็ได้ตั้งคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ
เพื่อร่วมพูดคุยกับรัฐบาลไทยเช่นกัน
ในการนี้
พล.อ.วัลลภ
ได้แนะนำคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ฝ่ายไทยที่มาจากส่วนราชการต่างๆ
ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ ให้ทางฝ่ายมาเลเซียได้รู้จัก
และได้มีการหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน
เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยในระยะต่อไป
ทั้งจะได้หยิบยกเรื่อง
Joint
Comprehensive Plan Towards Peace(JCPP) หรือ
กรอบความร่วมมือเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม
ซึ่งเป็นการต่อยอดและขยายผลหลักการทั่วไปว่าด้วยการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
(General Principles of the Peace Dialogue Process) ให้นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมภายในปี
2566 ทั้งในเรื่องการลดการเผชิญหน้า, ยุติความรุนแรง,
การปรึกษาหารือสาธารณะ และการแสวงหาทางออกทางการเมือง
โดย
พล.อ.ตันสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ได้แจ้งให้ทางการไทยทราบว่า
มีกำหนดการเชิญเข้าร่วมพูดคุยเต็มคณะอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 6
ในวันที่ 21-22 ก.พ.66 ณ
กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
สำหรับ
พล.อ.ตันสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน
เป็นผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนที่ 3
ของมาเลเซีย นับตั้งแต่เริ่มมีการตั้งคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขชุดแรกเมื่อปี 2556 โดย พล.อ.ตันสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก และ
อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย
เปิดข้อสังเกต
“พิธีกรรม” ก่อนพูดคุยดับไฟใต้
เป็นที่น่าสังเกตว่า
กำหนดการพบปะผู้คณะพูดคุยฯ และผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุย ไม่ค่อยเปิดเผยอย่างเป็นทางการมากนัก
อย่างกรณีของ “ตันสรี ซุลกิฟลี” ผู้อำนวยความสะดวกฯคนใหม่
ก็มีข่าวออกมาก่อนประปรายอย่างไม่เป็นทางการ จนสื่อและประชาคมชายแดนใต้ ไม่ได้ให้ความสนใจ
แต่ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบมักจะทราบความเคลื่อนไหว
และเร่งก่อเหตุรุนแรงเพื่อแสดงศักยภาพ สะท้อนชัดจากสถานการณ์ที่ชายแดนใต้ที่มีเหตุรุนแรงรายวันในช่วงนี้
สำหรับวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการเยือนไทย
ก็คือ
1.แนะนำตัว ทำความรู้จักคุ้นเคยกัน
2.รับฟังความเห็นของคณะพูดคุยฯฝ่ายไทย ว่าคิดอย่างไรกับการพูดคุยที่ผ่านมา
และต้องการให้มาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกปรับปรุงอะไรบ้างเพื่อให้การพูดคุยมีความคืบหน้า
3.ฝ่ายไทยมีประเด็นอะไรจะฝาก ตันสรี ซุลกิฟลี ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก
เพื่อสื่อสารไปถึงตัวแทนบีอาร์เอ็นบ้าง
และน่าจะนำประเด็นที่บีอาร์เอ็นฝากสื่อสารถึงฝ่ายไทย มาแจ้งด้วย
การพบปะกันครั้งแรกๆ
น่าจะยังไม่มีสารัตถะอะไรมาก แต่ประเด็นที่ทุกฝ่ายอยากทราบ
และมีผลอย่างยิ่งต่อการพูดคุย แต่อาจจะไม่มีใครยกขึ้นมาซักถาม หรือตอบคำถาม ก็คือ
ถ้าไทยเปลี่ยนรัฐบาลในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีกไม่นานนี้
(ซึ่งก็มีแนวโน้มไม่น้อยอยู่เหมือนกัน) จะมีผลกระทบต่อคณะพูดคุยฝ่ายไทยหรือไม่
เป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ
!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น