19
ปีไฟใต้ ปัญหาที่รุมเร้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่เฉพาะปัญหาความไม่สงบ
ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหยิบยื่นให้กับประชาชนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบที่ยืดเยื้อมายาวนานนั้น กลับมีปัญหาอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่
และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และหนึ่งในนั้นคือ‘ปัญหายาเสพติด’
จากสถิติการจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ
4 อำเภอของ จ.สงขลา
ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าวโดยการนำเสนอของสื่อต่างๆ นั้น
จะเห็นได้ว่ามีการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆ
ยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากโดยยอดการจับกุมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค
9 พบว่ายาเสพติดประเภทพืชกระท่อม
เป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่นตลอดจนเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รองลงมาคือ “ยาบ้า”
โดยมี จ.นราธิวาส เป็นแหล่งพักยาขนาดใหญ่
แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
คือกลุ่มเด็กและเยาวชนชายแดนใต้ ซึ่งเป็นวัยที่มีความเสี่ยง
ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ ที่กำลังเบ่งบานท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง
และความขัดแย้ง
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
เอื้อต่อการแพร่กระจายหรือขนย้ายยาเสพติดหรือไม่?
เคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า
ปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดอย่างหนักในพื้นที่ชายแดนใต้
มีผู้ที่มีความคิดต่างจากรัฐ
หรือกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมบางกลุ่มได้ตั้งข้อสังเกตว่าเล็ดลอดเข้ามาได้อย่างไร? หรือหนักไปยิ่งกว่านั้นกลับกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
นั่นเป็นมุมมองของกลุ่มคนที่จ้องทำลาย
และพยายามบิดเบือนโยนผิดให้เจ้าหน้าที่ แต่ความจริง เป็นเช่นไร?
ในมุมมองหนึ่ง
ปัญหาความไม่สงบเป็นปัจจัยในการเพิ่มยาเสพติดด้วยเช่นกัน
เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทุ่มเทกำลังไปทำงานในเรื่องของการเฝ้าระวังการก่อเหตุร้าย
ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการปราบปรามยาเสพติด
ยังเกี่ยวโยงถึงประเด็นหนึ่งก็คือ
บางพื้นที่ที่เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ เป็นหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการ
เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไม่ค่อยถึง เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัย
การจะเข้าไปขอความร่วมมือจากประชาชนให้รวมตัวกันต้านภัยยาเสพติดก็ทำได้น้อยลง
กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น
มีส่วนเกี่ยวข้องปัญหายาเสพติดหรือไม่?
เมื่อนักค้ายาเสพติดทำการลักลอบนำยาเสพติด
เข้ามาเป็นจำนวนมากๆ จะมีแหล่งพักยา ซึ่งแหล่งใหญ่มีทั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งไทย
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และฝั่งประเทศมาเลเซีย
ในฝั่งไทยโดยเฉพาะหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มขบวนการ คือเป้าหมายหลักในการพักยาเสพติด
เนื่องจากความยากลำบากในการเข้าถึง เพราะฉะนั้นคำถาม กลุ่มขบวนการ BRN มีส่วนเกี่ยวข้องปัญหายาเสพติดหรือไม่? คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่านอกจากทำการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้ว
ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดอีกด้วย เรามาดูเหตุและผลกัน
ในหมู่บ้าน(กำปง) เล็กๆ ใครค้าใครเสพ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น
และกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นย่อมรู้ดีว่ามีใครบ้าง
โดยเฉพาะตัวการใหญ่นักค้ายาเสพติดรายสำคัญๆ
กลุ่มขบวนการ BRN รู้เห็นเป็นใจกับนักค้ายาเสพติด เนื่องจากรายได้จากการค้ายาเสพติดเป็นท่อน้ำเลี้ยง
เป็นเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการในการจัดซื้อ จัดหาอาวุธปืน
สารตั้งต้นประกอบวัตถุระเบิดนำไปสู่การก่อเหตุร้าย
โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่มีการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงจากนักค้ายาเสพติดรายใหญ่
กลุ่มและองค์กรปีกการเมืองของกลุ่มขบวนการทั้งหลายที่เรียกร้อง
PATANI-MERDEKA
หันกลับไปเรียกร้อง MERDEKA-ยาเสพติด ก่อนดีมั๊ย!!
เพราะมัจจุราชตัวจริงที่ทำลายชีวิตทำลายอนาคตของลูกหลานเราคือ ‘ยาเสพติด’
และให้จับตาดู‘กลุ่มขบวนการ BRN’
ให้การหนุนหลังสนับสนุนนักค้ายาเสพติดจริงหรือ? ทำไม? BRN ถึงนิ่งดูดายทั้งๆ ที่รู้ว่าใคร?
เป็นคนค้า
หรือจะเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า..ฝากเป็นข้อคิดช่วยกันติดตามตรวจสอบกระชากไอ้โม่ง ที่อยู่เบื้องหลังให้สังคมได้รับรู้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น