💥💥 “เปลี่ยนผู้เสพเป็นพลังชุมชน”
ภาครัฐร่วมมือผู้นำศาสนาอิสลาม
แก้ปัญหา เน้นเชิงรุก ตรงกลุ่มเป้าหมาย ยาเสพติดวัยรุ่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเร่งแก้ปัญหายาเสพติดให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะการแพร่ระบาดยาในกลุ่มวัยรุ่น และการกลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำ เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปรึกษาหารือกับนายอรุณ บุญชม
ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร
ถึงแนวทางการยกระดับการดำเนินงานต่อเด็กและเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลาม
ให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลาม เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขบำบัดฟื้นฟู
และการติดตามภายหลังปล่อยตัวเด็กและเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทางกรมฯ
ได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักจุฬาราชมนตรี
ดำเนินการปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงานดูแลเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
ให้มีความสอดคล้องกับหลักศาสนาและการปฏิบัติในปัจจุบัน
รวมถึงการส่งเสริมด้านการศึกษาพื้นฐาน การศึกษาทางเลือก
และการศึกษาด้านอาชีพผ่านศูนย์การศึกษาอิสลามประจำพื้นที่ เช่น โรงเรียนปอเนาะ
โรงเรียนฮาฟิส ตลอดจนการใช้กิจกรรมตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น
การท่องจำคำภีร์อัลกรุอาน เพื่อบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมเด็กและเยาวชน
สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและบริบทที่ต่างจากพื้นที่อื่น ทางกองทัพภาค 4
ได้ร่วมบูรณาการการทำงาน
ขับเคลื่อนโครงการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง (Community Based
Treatment CBTx) ผ่านการมีส่วนร่วมของผู้นำศาสนา และผู้ปกครอง
ตั้งแต่ปี 2563 มีตำบลมะนะยง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นตำบลต้นแบบ
ขณะนี้สามารถขยายผล
มีตำบลเข้าร่วมโครงการและดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม รวม 38 ตำบลนำร่อง
ในปีหน้าตั้งเป้าให้ครบ 290 ตำบลในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้และสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา
การใช้แนวทาง
CBTx
เป็นแนวทางที่สอดสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในพื้นที่
เพื่อให้เกิดการยอมรับของคนในชุมชนอย่างแท้จริง
ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการ
ประกอบด้วย
5 ขั้นตอน
1.
ค้นหาเชิงรุก
2.
คัดแยกและคัดกรองเชิงรุก
3.
ส่งเข้าบำบัด
4.
ติดตามผล บ่มเพาะนิสัยใหม่
และ
5. สร้างอาชีพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น