การนำเสนอเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และควรเป็นหน้าที่ของคนในท้องถิ่นนั้น ๆ
เพื่อให้เกิดจิตสำนึกความเป็นท้องถิ่น
โดยไม่มีจุดประสงค์ที่จะสร้างลัทธิท้องถิ่นนิยมหัวรุนแรง
ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรูปแบบการปกครองของรัฐและเพื่อนร่วมชาติ
แต่เรื่องประวัติศาสตร์
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นายฮาซัน ยามาดีบุ นักประวัติศาสตร์ชาวนายู
(มลายู 3 จังหวัด) โพสต์บนเฟซบุ๊ก
มักไม่มีการอ้างอิงเอกสารหรือหลักฐาน เช่น การพยายามรวม 4
อำเภอของสงขลา - จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรปัตตานีโบราณ
ซึ่งสร้างความไม่สบายใจแก่ชาวสงขลาที่อาศัยในบริเวณนี้
ที่ใช้ชีวิตกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมแบบปัตตานี-กลันตัน
เมื่อ
22 และ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565
นายฮาซันโพสต์เรื่อง กรณีแบ่งเมืองจะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวีออกจากปัตตานี ซึ่งมีแต่ความผิดพลาด
ความเท็จ และไร้เอกสารอ้างอิง
โพสต์วันที่
31 สิงหาคม กล่าวว่า “พระยาสงขลาและนายพ่ายได้จัดแจงพื้นที่ให้เป็นส่วน ๆ
จาก 18 เมืองให้เป็น 12 เมือง ได้แก่
เมืองจือเนาะ ตีบอ หนองจิก ตานี ยาลอ รือมัน ยือริง กันดังกืรเบา กลาบอ สาย
ลือแฆะห์ และสุไหงปาดี เมืองเหล่านี้ ต่างมีผู้ปกครองหรือราชาเมือง ที่มีสถานะเท่ากันในบรรดาศักดิ์เจ้ามลายูขณะนั้น
ส่วนเมืองจือเนาะและตีบอ กลับถูกแยกออกจากสาระบบเขตพื้นที่ปตานี
เพราะพระยาสงขลาต้องการ 2 เมืองนี้ไว้ในครอบครอง
จึงไหว้วานพระยาอภัยสงครามให้ช่วยสนับสนุนในการถวายแผนการแบ่งแยกแล้วปกครองเมืองปตานีต่อกษัตริย์สยาม
สุดท้าย
เมืองจือเนาะและตีบอ ก็ถูกยกให้แก่เมืองสงขลา เพื่อตอบแทนพระยาสงขลา ที่เสนอแผนจัดการปัญหาการต่อต้านของชาวปตานี”
เมื่อตรวจสอบเอกสารฝั่งมลายู
ก็ไม่มีข้อความทำนองดังกล่าวในเอกสารใด ๆ ข้อมูลนี้มาจากไหน? และเรื่องราว 4 อำเภอของสงขลา
ซึ่งมีหลักฐานหรือเอกสารทางประวัติศาสตร์อ้างอิง ศึกษาต่อยอดอีกได้
และยินดีรับคำโต้แย้งที่มีการอ้างอิงเช่นเดียวกัน เป็นเช่นไร? รับรู้ได้จากบทความนี้ https://bit.ly/3BQoRPT
เลือกติดตามช่องทางอื่น
ๆ ของ Lue
History ได้ที่นี่
#LueHistory #ข้อเท็จจริง #หลักฐาน #ประวัติศาสตร์
#จะนะ #เทพา #ปัตตานี
#ปาตานี #3จังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น