🚅🚅รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง
ยกระดับการเดินทางและเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบ เตรียมเปิดให้บริการอีก
5 เส้นทางภายในปี 2565 นี้
🚅รัฐบาลเร่งพัฒนาขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศ
ตามนโยบายเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับการเดินทางให้สะดวกรวดเร็ว
และแก้ปัญหาการจราจรที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
🚅โครงข่ายรถไฟทางไกลรองรับการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง
และจากทางเดี่ยวสู่ทางคู่ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 7
เส้นทาง ระยะทาง 985 กิโลเมตร มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี
ประกอบด้วย
☀️เส้นทางที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว
จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่
✅1) ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา -
ชุมทางคลองสิบเก้า – ชุมทางแก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร
เปิดให้บริการแล้วเมื่อปี 2562
✅2) ช่วงชุมทางถนนจิระ –
ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร เปิดให้บริการแล้วเมื่อปี 2563 และอีก 5 เส้นทางที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้
☀️ทั้งนี้ 5
เส้นทาง ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและเตรียมเปิดให้บริการได้แก่
✅ 1) ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
ระยะทาง 145 กิโลเมตร
✅2) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
ระยะทาง 135 กิโลเมตร
✅3) ช่วงนครปฐม-หัวหิน
ระยะทาง 169 กิโลเมตร
✅4) ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
ระยะทางรวม 76 กิโลเมตร
✅5) ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
ระยะทางรวม 167 กิโลเมตร
🚅เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว
จะสามารถเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ในการเดินทาง รวมถึงการขนส่งสินค้า
อีกทั้งยังเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมพื้นฐานด้านอื่น ๆ ของประเทศ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🚅โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ตามนโยบายรัฐบาล
ถือเป็นการยกระดับการเดินทางที่สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง
ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสต์ติก เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ
ลดระยะเวลาในการเดินทางได้อย่างชัดเจน
#ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น