เมื่อวันที่
๓๑ มีนาคม และ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย
พลเอก วัลลภ รักเสนาะ กับคณะผู้แทน BRN นำโดยอุซตาส อานัส
อับดุลเราะห์มาน ได้มีการพบปะหารือและพูดคุยแบบเต็มคณะ ครั้งที่ ๔ ณ
กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมี ตันซรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นอร์
เป็นผู้อำนวยความสะดวก และมีผู้เชี่ยวชาญ ร่วมสังเกตการณ์ด้วย ทั้งนี้
ผลการพูดคุยฯ มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
และเป็นหมุดหมายที่จะนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างสันติสุขอย่างถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
๑)
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ คณะพูดคุยฯ และ BRN ได้รับรองเอกสาร
“หลักการทั่วไปว่าด้วยกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข”
ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายตกลงจะพูดคุยกันในรายละเอียด
โดยกำหนดให้มีกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีเกียรติและเปิดกว้างต่อการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
เพื่อบรรลุทางออกทางการเมือง
ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ตามแนวคิดชุมชนปาตานีภายใต้ความเป็นรัฐเดี่ยวของราชอาณาจักรไทยตามที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
๒)
ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องร่วมกันใน “ความริเริ่มรอมฎอนสันติสุข”
ด้วยการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อสันติสุขในห้วงเดือนรอมฎอน
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่และสร้างความไว้วางใจต่อกระบวนการพูดคุย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะมีลักษณะเป็นการปฏิบัติที่ต่างฝ่ายต่างปฏิบัติอย่างเกื้อกูลกัน
เพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ให้เป็นไปตามหลักการทั่วไปว่าด้วยกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
๓)
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดคุยเรื่องบทบาทและขอบเขตหน้าที่การทำงานของคณะทำงานร่วมเพื่อขับเคลื่อนการพูดคุยในประเด็นสารัตถะ
๓ คณะ ประกอบไปด้วย ๑) คณะทำงานร่วมเรื่องการลดความรุนแรง ๒)
คณะทำงานร่วมเรื่องการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ และ ๓)
คณะศึกษาร่วมเรื่องการแสวงหาทางออกทางการเมือง
โดยมีการมอบหมายบุคคลผู้ประสานงานเพื่อประสานการปฏิบัติของคณะดังกล่าว
คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขอความร่วมมือให้ประชาชนและทุกภาคส่วนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ได้ติดตามสถานการณ์ในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสันติสุขในห้วงเดือนรอมฎอน
โดยทั้งสองฝ่ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
จะเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น