แฉคนร้ายปล่อยเอง!
คลิปยิงถล่มตำรวจน้ำตากใบ หวังโชว์ศักยภาพ
เจ้าหน้าที่ยังคงแกะรอยและค้นหาเบื้องหลังของการก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจน้ำตากใบ
และอาคารด่านศุลากากรตากใบ เมื่อค่ำวันพุธที่ 25 พ.ค.65 ซึ่งกลายเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ของปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่มีความพยายามสร้าง
“ข้อตกลงสันติสุข” กับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ
“เราพบว่ากลุ่มคนร้ายปล่อยคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มีนัยเพื่อต้องการโปรโมท
เพื่อสื่อให้เห็นว่าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่”
นี่คือข้อสังเกตจาก
พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9)
หลังลงตรวจที่เกิดเหตุในวันรุ่งขึ้นทันทีที่เสียงปืน
เสียงระเบิดสงบลง
คลิปวีดีโอที่ว่านี้
ยาวประมาณ 50 วินาที เป็นภาพที่ถ่ายจากฝั่งที่โจมตีสถานีตำรวจน้ำตากใบ
มีชายใส่ชุดสีทึบใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม
พร้อมเสียงพูดและเสียงคล้ายสวดเป็นภาษามลายู คลิปนี้ถูกปล่อยออกมาปะปนกับคลิปของชาวบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์ที่ถ่ายเอาไว้
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่นำมาตรวจสอบ จึงพบว่าน่าจะเป็นคลิปของฝ่ายผู้ก่อการเอง
“เขาต้องการสร้างความเป็นตัวตน แสดงศักยภาพของกลุ่ม” พล.ต.ท.นันทเดช
ชี้ถึงเป้าหมายของการปล่อยคลิป โดยสาเหตุที่ปล่อยคลิปและก่อเหตุในช่วงนี้ ก็เพื่อทำลายบรรยากาศสันติสุขหลังภาครัฐประสบความสำเร็จในการสร้าง
‘รอมฎอนสันติ’ ภายใต้ข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น
“ในความเป็นจริง ขณะนี้พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงกว่า 50-60 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านอยู่ในความสงบมาโดยตลอด
และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีความดีใจที่สถานการณ์ดีขึ้น
แต่ก็ยังมีคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ไม่อยากให้ในพื้นที่แห่งนี้มีความสงบสุข
เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน มีไม่กี่คนที่จุดประกายขึ้นมา”
นอกจากคลิปที่ถ่ายจากฝั่งผู้ก่อเหตุแล้ว
ยังมีคลิปที่อ้างว่าถ่ายจากฝั่งมาเลเซีย
ที่มีผู้คนออกมาจับกลุ่มดูสถานการณ์อีกฝั่งแม่น้ำ ซึ่งอยู่ในฝั่งไทย
ภาพนี้ก็ก่อผลในแง่ลบกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เหมือนกัน
เพราะเป็นการมองผ่านสายตาของคนนอกประเทศ ของประเทศเพื่อนบ้าน คำถามก็คือ
เป็นฝีมือของกลุ่มใด กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐบนโต๊ะเจรจา หรือนอกโต๊ะเจรจา
หรือว่าเป็นการกระทำของกลุ่มค้ายา ค้าของเถื่อนที่ถูกจับกุมอย่างหนัก
แต่ลักษณะของคลิปที่ออกมา มีความพยายาทำให้เชื่อมโยงกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน
“ทุกอย่างเป็นประเด็นหมด” ผบช.ภ.9 บอก
“ทั้งการบังคับใช้กฎหมายจับยาเสพติดรายใหญ่
ครั้งหลังสุดได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8
จับคนร้ายฟอกเงินคดียาเสพติด ได้ไป 10 กว่าคน
มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ส่งไปยังประเทศมาเลเซีย (เมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา) ทุกอย่างไม่ทิ้งประเด็น”
พื้นที่ตากใบเหมือนเป็นปลายทางของการส่งบุหรี่เถื่อนจากประเทศที่ 3 และมีการจับกุมบ่อยครั้งเช่นกัน
“บุหรี่เถื่อนถือว่าเป็นของหนีภาษี
อยู่ในกลไกผิดกฎหมายลักษณะเช่นเดียวกับคดีอื่นๆ ที่จับได้
ซึ่งคนที่อยู่ในพวกการกระทำความผิด โดยเฉพาะยาเสพติด เขามีเครือข่าย พวกมือปืนมาจากคนบางกลุ่ม
คนพวกนี้มีเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย เห็นผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ”
พล.ต.ท.นันเดช ระบุ
ผบช.ภ.9
บอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีแผนรดูแลเส้นทางชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์
ตัวบุคคล แผนการปฏิบัติ ห้วงเวลา ข้อมูลข่าวสาร โดยมีกลุ่มบุคคลเป้าหมายทั้งหมด
คำตอบจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายตำรวจในพื้นที่
วิเคราะห์ได้ว่าฝ่ายสีกากีให้น้ำหนักไปที่ปัญหาภัยแทรกแซ้อนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ
โดยมีการใช้คลิปวีดีโอสร้างภาพความรุนแรง ถือว่าสมประโยชน์กัน
เพื่อให้เห็นว่าปัญหาความไม่สงบยังมีอยู่
เพราะความไม่สงบที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
เกื้อหนุนให้ธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภทให้เติบโตงอกงาม
บทวิเคราะห์นี้ถูกขยายความจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รายหนึ่งที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ
ชุดสืบสวนนำกำลังไปจับกุมผู้ต้องสงสัย วันถัดมาจึงถูกตอบโต้ทันที
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเขามีโอกาสและจังหวะทุกเมื่อ หากเขาจะก่อเหตุ เราเจ้าหน้าที่คนปฏิบัติงานจะต้องทำตามกติกา
ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เผลอเมื่อไหร่พวกนี้มาแน่
อย่างครั้งี้มาเต็มทั้งระเบิดถังแก๊ส ระเบิดขว้าง เขามีอาวุธปืนครบ
เสียงปืนดังมาก”
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รายนี้
สะท้อนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีกำลังคน และยุทโธปกรณ์พร้อมอยู่แล้ว
จึงน่าจะเป็นกลุ่มก้อนที่เคลื่อนไหวด้านความมั่นคง
แต่ก็อาจจะมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มอิทธิพลในธุรกิจผิดกฎหมายด้วย
ด้าน
นายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานองค์การปลดปล่อยสหปาตานี หรือ PULO-MKP กล่าวกับ ‘ทีมข่าวอิศรา’ ว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีความสัมพันธ์กับการพูดคุยสันติสุข ตามรายข่าวเบื้องต้น
และพูโลไม่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่ตากใบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น