เหตุไฟใต้ตากใบเชื่อมโยงภัยแทรกซ้อน
นราธิวาส – รอง
ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมายังสถานีตำรวจน้ำตากใบ
เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุและสอบถามถึงเหตุการณ์คนร้ายปาระเบิด คาดสาเหตุ 2
ประเด็นคือ กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ และจากการกวาดล้างภัยแทรกซ้อน
เมื่อ 26 พ.ค.65 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจน้ำตากใบ ม.1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พบความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ของทางราชการ และรถยนต์ส่วนตัว รวมไปถึงอาคารสถานีถูกกระสุนปืนของคนร้ายจำนวนหลายจุด ก่อนที่ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เรามีกระบวนการพูดคุยในช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ซึ่งตลอดตั้งแต่ช่วงรอมฎอนและภายหลังเดือนรอมฎอน พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวมีเพียง 10 กว่าครั้ง เป็นคดีความมั่นคงเพียง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมเป็นอย่างมาก และจากลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นรูปแบบเช่นเดียวกับกองกำลังของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่เคยก่อเหตุในรูปแบบดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่เป็นคำถามของสังคมว่าเกิดจากอะไร
คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบในเรื่องของการวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นสาเหตุ
ซึ่งเรามองไว้ 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1
เป็นปัจจัยที่เกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข
อาจเกิดจากกลุ่มที่ตกกระบวนการพูดคุย ประเด็นที่ 2 เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักในเรื่องของการตอบโต้ผลจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปจัดการกับภัยแทรกซ้อนในช่วงที่ผ่านมา
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา
เรามีการเปิดแผนในการเข้ากวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายหลายพื้นที่
โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอตากใบ ได้ตรวจสินค้าหนีภาษี ไม่ว่าจะเป็นสุรา บุหรี่
หรือแม้กระทั่งน้ำมันหนีภาษี
และล่าสุดได้มีการตรวจค้นพร้อมกัน
29 จุด ในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเฉพาะในส่วนของอำเภอตากใบ เราสามารถตรวจค้นจำนวน 7
จุด และการจับกุมแรงงานต่างด้าว 387 คน และผู้นำพาอีก 10 คน
ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้กลุ่มที่เสียผลประโยชน์ใช้โอกาสในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงก็เป็นได้
“จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรวบรวมวัตถุพยาน
รวมทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดควบคู่ไปกับการตรวจสอบข้อมูลด้านการข่าวเชิงลึก
เพื่อที่จะคลี่คลายและสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร
ซึ่งจะนำเรียนให้ประชาชนได้ทราบต่อไป” พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์
รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น