มิตรภาพไทยพุทธ-ไทยมุสลิมที่มีมาช้านานในสมัยอดีต
มิตรภาพที่ดีของคนไทยพุทธกับไทยมุสลิมในสมัยอดีตที่มีมาช้านาน
นางสาวสมประสงค์
อาลีอิสเฮาะ ได้เล่าเกี่ยวกับมิตรภาพของคนไทยพุทธกับไทยมุสลิมในสมัยอดีต
ซึ่งบิดาของตน คือนายสนั่น อาลีอิสเฮาะ เป็นยุวทหารชาวไทยมุสลิมในสมัยนั้น
โดยเพื่อนรักของนายสนั่น มีชื่อว่า นายเนียน ศรีสุวรรณ เป็นยุวทหารชาวไทยพุทธ
ยุวทหารสองท่านนี้เป็นเพื่อนรักกัน และศึกษาเล่าเรียนด้วยกันในตอนวัยเด็ก ในสมัยนั้นชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมจะเป็นเพื่อนกัน
จะไม่มีการแบ่งแยกกัน
ซึ่งชีวิตในวัยเรียนของนายสนั่นกับนายเนียนเองในตอนนั้น เวลาพักเที่ยงก็จะไปร้านอาหารมุสลิม
โดยที่เพื่อนที่เป็นไทยพุทธก็ไม่มีปัญหา
บางครั้งก็มีไปนอนค้างคืนบ้านเพื่อนที่เป็นมุสลิม
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของคนไทยพุทธและไทยมุสลิมในสมัยนั้น เวลามีงานบุญเดือนสิบ
ก็จะเอาข้าวต้มมัดให้เพื่อนมุสลิม ส่วนเพื่อนที่เป็นมุสลิม เมื่อถึงวันฮารีรายอ
ก็จะเอาตูปะ (ข้าวต้มมัด) มาให้เพื่อนไทยพุทธด้วยเช่นเดียวกัน
ในสมัยที่สงครามโลกครั้งที่
2 เมื่อเกิดเหตุการณ์กองกำลังญี่ปุ่น ยกพลขึ้นบกที่ปัตตานี
ยุวทหารทุกคนก็พยายามต่อสู้ ซึ่งนายสนั่นกับนายเนียน ก็เป็นสหายร่วมรบ กับกองกำลังญี่ปุ่นในสมัยนั้นด้วย
ตอนที่กองกำลังญี่ปุ่น ได้บุกเข้ามา สะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคีของทุกคนในยุคนั้น
ที่ทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบสุข โดยไม่มีการเลือกฝ่าย เหตุการณ์ในตอนนั้น
ชาวบ้านทุกคนจะช่วยเหลือกัน แม้แต่ชาวบ้านที่เป็นชาวไทยมุสลิม ก็เอาเรือข้ามมารับยุวทหารที่เป็นชาวไทยพุทธ
ที่กำลังหนีข้ามแม่น้ำปัตตานี เพื่อมาตั้งหลักเนื่องจากต้านกำลังทหารญี่ปุ่นไม่ไหว
และเมื่อ จอมพล ป.พิบูลสงครามประกาศยอมให้ญี่ปุ่นใช้เส้นทางผ่านประเทศ
เพื่อเคลื่อนทัพไปยังประเทศมาเลเซีย การต่อต้านกองกำลังญี่ปุ่นก็ได้ยุติลง
นายสนั่น ก็หนีภัยไปอยู่ที่ตำบลปูยุด เนื่องจากบ้านถูกญี่ปุ่นยึดเป็นกองบัญชาการ
ส่วนนายเนียน ก็อพยพไปอาศัยกับครอบครัวชาวมุสลิมในอำเภอยะรัง ชาวบ้านมุสลิมให้อยู่
โดยไม่ได้หวาดระแวง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าในสมัยก่อน ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้
ทุกคนช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันแม้จะต่างศาสนิกก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น