แถลงร่วม 3 ฝ่าย
ขับเคลื่อนการพัฒนา จชต. ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม
เมื่อ
5 เมษายน 2565 นายอำนวย ศรีระแก้ว
ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยพันเอก
เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และพันตำรวจโท ภนภัค ภานุเดชากฤษ
ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลง 3 ฝ่าย
ผลการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงเดือนมีนาคม
2565 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมดาหลา กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง
จังหวัดยะลา
ผู้ช่วยเลขาธิการ
ศอ.บต. กล่าวว่า ในห้วงเดือนมีนาคม 2565 ศอ.บต.
ได้มีการดำเนินกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย กพต. อนุมัติหลักการ 5 โครงการที่ ศอ.บต.
นำเสนอ ในคราวการประชุมครั้งที่ 2/2565 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ
โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กพต.
และเป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.
ผู้บริหารของ ศอ.บต.และคณะกรรมการ กพต. เข้าร่วมประชุม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในทุกมิติ
ได้แก่ โครงการเสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนา
เพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2565 –
2570 ในการฟื้นฟูและทำนุบำรุงความเป็นพหุสังคมและวัฒนธรรมในพื้นที่
เป็นการส่งเสริมกิจการทางศาสนาที่เกี่ยวข้องของทุกศาสนา
เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนที่จะได้รับการส่งเสริมให้เข้าถึงหลักการทางศาสนา
โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์ อุโมงค์ใหญ่
“ต้าสวุ่ยต้อ”ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เพื่อสร้างพื้นที่การท่องเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ให้เป็นเมืองแห่งการพึ่งพาตนเองในด้านการท่องเที่ยว
โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ – ด่านบูกิตกายูฮิตัม
ของมาเลเซียเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
โครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย – เนปาล
เพื่อส่งเสริมให้คนดี มีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบศาสนกิจ
และโครงการจ้างบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมายและชุมชนเมือง
เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการแก้ไขปัญหาและสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
อีกทั้งในห้วงที่ผ่านมา ศอ.บต.ได้มีโอกาสต้อนรับ คณะเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา
ประจพประเทศไทย และคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ประจำประเทศไทย
เพื่อหาแนวทางความร่วมมือการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างกัน และศอ.บต.
จับมือมูลนิธิรวมพัฒน์ ลงนามความร่วมมือ นำเทคโนโลยีบล็อกเชน
เป็นต้นแบบการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนใต้
รวมถึงการดำเนินการลงพื้นที่ต่อเนื่องติดตามคนไร้สัญชาติหลังได้รับสถานะทางทะเบียนราษฯ
ให้สามารถเข้าถึงสิทธิของรัฐได้อย่างทั่วถึง
ด้านหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์
กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค 4 ส่วนหน้า
เปิดเผยถึงการปฏิบัติภารกิจในการดูแลพี่น้องประชาชนว่า
หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้มีการขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ
ให้สอดคล้องและหนุนเสริมคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ
ด้านการพูดคุยเพื่อสันติสุข ซึ่งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2565
คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมหารือกับผู้แทนบีอาร์เอ็น ณ
กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ในการคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างสันติสุขอย่างถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่
ตลอดจนการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการชุมชนบำบัดยาเสพติดต้นแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน
37 ตำบลในทุกอำเภอ และการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ที่ได้มีการดำเนินการกิจกรรมหลายกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในห้วงที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
ได้เปิดเผยถึงสรุปผลการติดตามคดีสำคัญในห้วงเดือนมีนาคม 2565 ว่า
ได้มีการเกิดเหตุก่อความรุนแรง 6 เหตุอาชญากรรมทั่วไป 13 เหตุ เหตุก่อกวน 18
เหตุมีผู้เสียชีวิต 4 ราย แยกเป็น ตำรวจ 2 นาย ทหาร 1 นาย และประชาชน 1 ราย
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย แยกเป็น ตำรวจ 2 นายทหาร 11 นาย และประชาชน 6 ราย
ออกหมายจับป.วิอาญาคดีความมั่นคง จำนวน 16 หมายจับกุม 4 หมาย หลบหนี 12 หมาย
จำหน่ายหมายจับคดีค้างเก่า 3 หมาย รวมจำหน่ายหมาย 7 หมาย ออกหมายจับ ตาม พ.ร.ก.ฯ
จำนวน 14 หมาย จับกุม 10 หมาย หลบหนี 4 หมายจำหน่ายหมายค้างเก่า 1 หมาย
รวมจำหน่ายหมาย 11 หมาย มีผลคำพิพากษาคดีความมั่นคงของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์
และศาลฎีการวม 5 คดี จำเลย 6 คน แยกเป็น จำคุกตลอดชีวิต 3 คน จำคุกไม่เกิน 50 ปี 3 คน และยกฟ้อง 1 คน ในส่วนของความคืบหน้าคดีสำคัญ
มีเหตุลอบวางระเบิดก่อกวนในเขตเทศบาลนครยะลา เหตุแขวนป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์ข้อความ
FREE
PATANI IS NOT SIAM ในพื้นที่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ๓.
เหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา บนถนนสายบาเจาะ –
เขื่อนบางลาง หมู่ที่ ๔ ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังตา
จังหวัดยะลาและการพิพากษาคดีความมั่นคงที่น่าสนใจ 2 คดี
ทั้งนี้ในการแถลงผลการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีกำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเป็นรายการความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ และการปฏิบัติภารกิจของทั้ง 3 หน่วยงานในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายที่จะต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้กินดี อยู่ได้ เข้าใจกัน และสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมอย่างมีความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น