วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2568

เกียรติมลายูเคยรุ่งเรืองด้วยอิสลาม ไม่ใช่การเชิดชูชาติพันธุ์

เกียรติมลายูเคยรุ่งเรืองด้วยอิสลาม ไม่ใช่การเชิดชูชาติพันธุ์

แท้จริงแล้ว พลังความเข้มแข็งของคนมลายู มิได้อยู่ที่ ความเป็นมลายูของเขา

แต่พลังความเข้มแข็งของคนมลายูอยู่ที่การมีอัลเลาะห์เป็นพระเจ้า มีอิสลามเป็นวิถีชีวิต มีความผูกพันกับอัลเลาะห์ และรอซูลุลลอฮ์อย่างแน่นแฟ้น จนนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์ในด้านต่างๆ เช่นเดียวกับ ชนชาติอาหรับในยุคสมัยของท่านรอซูลุลลอฮ์ จนนำไปสู่การเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่เคยบริหารปกครอง 3/4 ของโลก

พวกเขาทั้งหลาย ต่างมิได้ต่อสู้เพื่อรักษาไว้ซึ่งการเป็นชนชาติอาหรับแต่อย่างใด แต่พวกเขาได้ทุ่มเทเสียสละต่อสู้ เพื่อการยืนหยัดฟื้นฟูรักษาไว้ ซึ่งกาลีเมาะห์อัลเลาะห์ ยืนหยัดหลักการอิสลาม จนนำไปสู่การได้รับชัยชนะ ที่สามารถนำพาความสงบสุขปลอดภัย ความผาสุกร่มเย็นสู่มวลมนุษย์

- ชนชาติตุรกีที่ได้เคยยิ่งใหญ่กลายเป็นอาณาจักรปกครองโลก ก็มิใช่ว่าพวกเขาจะต่อสู้เพื่อความเป็นตุรกี

แต่พวกเขาต่อสู้เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักอัลเลาะห์ ได้รู้จักพระเจ้า ได้รู้จักอิสลาม เสริมสร้างอีมานตักวา จนทำให้ชาวตุรกี ได้รับการช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองและมีความยิ่งใหญ่ในการบริหารปกครองโลก

ดังนั้น หากชนชาวมลายูได้ทำการต่อสู้ฟื้นฟูยืนหยัด รักษาไว้ซึ่งอากีดะห์ และชารีอัตอิสลาม มุ่งมั่นเสริมสร้างอีมานและตักวา จนกลายเป็นกลุ่มชนที่ให้คุณประโยชน์อย่างมากมายแก่สังคม

ชนชาวมลายูย่อมได้รับการช่วยเหลือและการปกป้องคุ้มครองอย่างแน่นอน

เเต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันกลายเป็นเกมส์การเมืองเเละชาติพันธุ์นิยม มิได้ขับเคลื่อนเพื่อฟื้นฟูเเละเชิดชู เพื่อศาสนาเเต่อย่างใด ศีลธรรมอันบริสุทธิ์เลยเลือนลางเเละถูกย่ำยีในที่สุด ดังที่ท่านซัยยิงดินาอุมัร บิน คอตตอบ เคยกล่าวไว้ว่า "อัลเลาะห์ได้ยกเกียรติพวกท่านด้วยอิสลาม เมื่อใดที่ท่านละทิ้งอิสลาม เกียรติของพวกท่านก็จะถูดลดลง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น