วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ปลากือเลาะห์ ขุนทรัพย์เศรษฐกิจของยะลา

🐟🐟ปลากือเลาะห์ ขุนทรัพย์เศรษฐกิจของยะลา

ปลากือเลาะห์ หรือ ปลาพลวงชมพู เป็นหนึ่งในตระกูลปลาพลวงที่จะสร้างรายได้ให้กับชาวเบตง ภายใต้นโยบาย 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แม้จะใช้เวลาในการเลี้ยงถึง 2 ปี จนได้ขนาดและราคากิโลกรัมละกว่า 3,000 บาท

ปัจจุบันปลากือเลาะห์ หรือปลาพลวงชมพู ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียและไต้หวัน โดยขนาดตัวที่หนัก 1 กิโลกรัม จะขายได้กิโลกรัมละ 3,500 บาท ซึ่งหากนำไปขายที่ประเทศมาเลเซีย ราคาจะเพิ่มเป็นเท่าตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 7,000 บาท และหากส่งไปที่ประเทศไต้หวันราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาทเลยทีเดียว สาเหตุที่ปลาชนิดนี้มีราคาแพง เนื่องจากเป็นปลาที่มีรสชาติดี เนื้อนุ่มอร่อย เหมือนปลาสำลีและหารับประทานได้ยาก ซึ่งจุดเด่นของปลากือเลาะห์ที่บางคนอาจยังไม่ทราบ คือปลาชนิดนี้สามารถกินได้ทั้งเกล็ด โดยในเกล็ดปลายังมีคอลลาเจนสูง

สำหรับปลาพลวงชมพู เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน รูปร่างคล้ายปลาเวียน แต่ลำตัวเพรียวและเป็นทรงกระบอกมากกว่า ส่วนหัวค่อนข้างมน ริมฝีปากหนาปากกว้างเล็กน้อย ใต้คางมีติ่งเนื้อสั้น มีหนวด 2 คู่เห็นชัดเจน ตาอยู่ค่อนไปทางด้านบนหัว เกล็ดมีขนาดใหญ่ ครีบหลังมีก้านแข็ง 1 อัน ครีบหางเว้าลึก ครีบก้นสั้น ลำตัวด้านบนมีสีคล้ำอมน้ำตาล ด้านข้างลำตัวสีเงินเหลือบชมพูหรือทอง ครีบสีคล้ำ ด้านท้องสีขาว มีขนาดความยาวประมาณ 25 ซม. ใหญ่สุดที่พบขนาด 35 ซม. อาศัยอยู่ในลำธารหรือแม่น้ำที่มีฝั่งเป็นป่าครึ้มรวมถึงบริเวณน้ำตก #พบเฉพาะภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ตั้งแต่แม่น้ำตาปีไปจนถึงมาเลเซีย พบมากที่น้ำตกฮาลา-บาลาภายในอุทยานแห่งชาติฮาลา-บาลา จังหวัดยะลา เป็นปลาที่มีรสชาติดีขึ้นชื่อของจังหวัดยะลา นับเป็นปลาที่มีราคาแพงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

.🚩🚩พิกัด บ่อปลาของเกษตรกร ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น