วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันนี้เรามีสิทธิเสรีภาพบนสื่อโซเชียล.. มากเกินไปหรือเปล่า..

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทุกวันนี้ ดูช่างมีมากมายเหลือเกิน อะไรพอใจ ไม่พอใจก็แสดงกันออกมาอย่างไร้จิตสำนึก ถูกผิดไม่สนใจ เอาสะใจเอามันกันเข้าไว้ เพราะทุกคนมีโทรศัพท์มือถือติดตัว ทำให้มีเครื่องมือในการสื่อสารได้ตลอดเวลา โดยความพยายามในการปลุกกระแสในสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ยอมรับกฎกติกาของสังคมและกฎหมายของบ้านเมือง มีออกมาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าพูดทุกวัน เป่าหูทุกวัน ทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก จนคนที่ได้รับสื่อเหล่านั้นคล้อยตามเอนเอียง และเกิดความหลงเชื่อกลายเป็นแนวร่วมไปในที่สุด โดยไม่สนใจอีกต่อไปว่าความจริงและความถูกต้องนั้นจะเป็นอย่างไร

ปัญหาในสื่อโซเชียล พบว่ายังมีการหลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ อีกมากมายหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นนั้น กองบังคับการปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ไม่สามารถดำเนินการลบหรือปิดกั้นโพสใดๆ ได้ทันที เพราะข้อมูลอินเทอร์เน็ตอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการสื่อนั้นๆ การดำเนินการใดจำเป็นต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ที่ต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจ หรือที่ บก.ปอท. แล้วเท่านั้น จึงได้ให้คำแนะนำแนวทางและขั้นตอนในการแจ้งความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไว้ดังนี้

1. ให้ผู้เสียหาย เตรียมเอกสารส่วนตัว และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

2. กรณีที่เสียหายต่อชื่อเสียง ให้เตรียมหลักฐาน ที่พบว่ามีการกระทำความผิด เช่น ปรินส์เอกสารหน้าจอ หน้าเว็บไซต์ หน้าโปรแกรมไลน์ โปรแกรมเฟสบุค หรือหน้าเพจที่พบการกระทำความผิด

3. กรณีที่เสียหายต่อทรัพย์ ให้เตรียมหลักฐานที่พบการกระทำความผิด การหลอกลวง ปรินส์เอกสารออกมาจากระบบคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย หลักฐานการโอนเงิน เป็นต้น

4. ให้ไปแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ สถานีตำรวจนครบาล หรือสถานีตำรวจภูธร หรือสามารถร้องทุกข์ได้ที่ บก.ปอท.

หลังจากที่องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเอกฉันท์ ชี้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งหยุดการกระทำ ชี้เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการลดทอนความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์โดยซ่อนเร้นด้วยวิธีการหาทางรัฐสภา เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ได้มีการแสดงความคิดเห็นทั้งสนับสนุนคำตัดสินตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย และที่สำคัญคือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน ได้มีการกล่าวหาโจมตีกระบวนการยุติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งรวมไปถึงการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจนำไปสู่การละเมิดอำนาจศาล อันจะมีความผิดตามกฎหมายได้ หากว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ตามกฎหมาย

จึงอยากเตือนสติ ผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียทั้งหลายว่า วันนี้ทุกคนต้องมีสติ มีวิจารณญาณ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกตามกระแส เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาได้ในภายหลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น