เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทุกวันนี้
ดูช่างมีมากมายเหลือเกิน อะไรพอใจ ไม่พอใจก็แสดงกันออกมาอย่างไร้จิตสำนึก ถูกผิดไม่สนใจ
เอาสะใจเอามันกันเข้าไว้ เพราะทุกคนมีโทรศัพท์มือถือติดตัว ทำให้มีเครื่องมือในการสื่อสารได้ตลอดเวลา
โดยความพยายามในการปลุกกระแสในสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ยอมรับกฎกติกาของสังคมและกฎหมายของบ้านเมือง
มีออกมาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าพูดทุกวัน เป่าหูทุกวัน
ทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก จนคนที่ได้รับสื่อเหล่านั้นคล้อยตามเอนเอียง
และเกิดความหลงเชื่อกลายเป็นแนวร่วมไปในที่สุด โดยไม่สนใจอีกต่อไปว่าความจริงและความถูกต้องนั้นจะเป็นอย่างไร
ปัญหาในสื่อโซเชียล
พบว่ายังมีการหลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ
อีกมากมายหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นนั้น
กองบังคับการปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ไม่สามารถดำเนินการลบหรือปิดกั้นโพสใดๆ ได้ทันที
เพราะข้อมูลอินเทอร์เน็ตอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการสื่อนั้นๆ
การดำเนินการใดจำเป็นต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ที่ต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจ หรือที่ บก.ปอท.
แล้วเท่านั้น จึงได้ให้คำแนะนำแนวทางและขั้นตอนในการแจ้งความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ไว้ดังนี้
1.
ให้ผู้เสียหาย เตรียมเอกสารส่วนตัว และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.
กรณีที่เสียหายต่อชื่อเสียง ให้เตรียมหลักฐาน ที่พบว่ามีการกระทำความผิด เช่น
ปรินส์เอกสารหน้าจอ หน้าเว็บไซต์ หน้าโปรแกรมไลน์ โปรแกรมเฟสบุค
หรือหน้าเพจที่พบการกระทำความผิด
3.
กรณีที่เสียหายต่อทรัพย์ ให้เตรียมหลักฐานที่พบการกระทำความผิด การหลอกลวง
ปรินส์เอกสารออกมาจากระบบคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย หลักฐานการโอนเงิน เป็นต้น
4.
ให้ไปแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ สถานีตำรวจนครบาล หรือสถานีตำรวจภูธร
หรือสามารถร้องทุกข์ได้ที่ บก.ปอท.
หลังจากที่องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ได้มีมติเอกฉันท์ ชี้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล
เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งหยุดการกระทำ
ชี้เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการลดทอนความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์โดยซ่อนเร้นด้วยวิธีการหาทางรัฐสภา
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ได้มีการแสดงความคิดเห็นทั้งสนับสนุนคำตัดสินตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย
และที่สำคัญคือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน
ได้มีการกล่าวหาโจมตีกระบวนการยุติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งรวมไปถึงการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจนำไปสู่การละเมิดอำนาจศาล
อันจะมีความผิดตามกฎหมายได้
หากว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ตามกฎหมาย
จึงอยากเตือนสติ
ผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียทั้งหลายว่า วันนี้ทุกคนต้องมีสติ มีวิจารณญาณ
อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกตามกระแส เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาได้ในภายหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น