สิทธิเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้
คือ สิ่งที่รัฐเร่งส่งเสริมและปกป้อง เด็กในวันนี้จะเป็นผู้ใหญ่และกำลังที่สำคัญในวันหน้า
คงไม่ช้าเกินไปสำหรับวันเด็กแห่งชาติที่ได้ผ่านไปแล้ว
เพราะเรื่องสิทธิของเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยนั้น เป็นสิ่งที่ภาครัฐเร่งส่งเสริมและปกป้อง
แต่กลับมีบางกลุ่ม แปรเจตนาที่ดีของรัฐ ไปบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์ที่อาจ
จะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้..
สิทธิเด็ก
(Right
of the Child) เป็นสิทธิทางธรรมชาติ คือ
สิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะต้องได้รับหรือรัฐต้องจัดให้มี
เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ที่ดีในสังคม โดยอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
(Convention on the Rights of the Child) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ
ได้กำหนดสิทธิเด็กพื้นฐานไว้ ดังนี้
สิทธิในการอยู่รอด
(Right
of Survival) กล่าวคือ เด็กทุกคนเมื่อเกิดมา มีสิทธิที่จะใช้ชีวิตอยู่
ไม่ว่าจะเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ผิดปกติหรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม
สิทธิได้รับการคุ้มครอง(Right of
Protection) เป็นสิทธิที่เด็กจะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
ให้รอดพ้นจากการทารุณ
สิทธิในด้านพัฒนาการ
(Right
of Development) เป็นสิทธิที่เด็กทุกคนจะได้รับสิทธิให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย
จิตใจ สังคม ตลอดจนการศึกษาที่ดี
และสิทธิในการมีส่วนร่วม
(Right
of Participation) ซึ่งเป็นสิทธิที่ให้ความสำคัญแก่เด็ก คือ มีสิทธิแสดงออกทั้งด้านความคิดและการกระทำ
สามารถเรียกร้องสิทธิในการปกป้องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของตนเองได้
สำหรับประเทศไทยกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิเด็ก
เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ก็ได้บัญญัติหลักเกณฑ์ในการสงเคราะห์ปกป้องสวัสดิภาพและคุ้มครองการละเมิดสิทธิเด็กไว้
ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็ก ตามที่กล่าวมาข้างต้น
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
ได้มีปัญหาความมั่นคงภายใน
ซึ่งเกิดจากการกระทำของกลุ่มคนที่มีแนวความคิดจะแบ่งแยกสังคม
โดยการสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่โดยไม่จำกัดหรือละเว้น แม้กระทั่งเป้าหมายที่เป็นเด็ก
พลเรือน ไม่เลือกสถานที่ ว่าจะเป็นตลาด โรงพยาบาล หรือ สถานศึกษา
นั่นคือในเรื่องของความรุนแรงที่ได้เห็นจากสายตา
แต่สิ่งที่รับรู้ได้ทางความรู้สึก
ในสถานศึกษามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งทางโลกและทางศาสนาเป็น IN PUT ที่ผิดเพี้ยน ผ่าน PROCESS ที่บ่มเพาะความขัดแย้ง
แตกต่าง สร้างความรุนแรง สร้างสภาพแวดล้อมที่จำกัด OUT PUT ที่ออกมา
จึงได้สร้างปัญหามาถึงทุกวันนี้ มีการเผาโรงเรียน ทำร้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา
ซึ่งหากวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งแล้ว
การกระทำที่ผ่านมาของกลุ่มที่มีแนวความคิดในการแบ่งแยกทางสังคม ก็คือ
การละเมิดสิทธิเด็กในด้านพัฒนาการทางการศึกษารูปแบบหนึ่งนั่นเอง
โดยอาศัยแนวร่วมทั้งในรูปของบุคคล
และองค์กรสร้างกระแสเพื่อให้ผู้บริโภคข่าวสารที่ไม่รู้เท่าทัน
เห็นว่ามีการละเมิดสิทธิเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จริง
ซึ่งก็ยังคลุมเครือว่า จะถือเป็นความผิดตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กของไทยหรือไม่ ทั้งตัวการ ผู้สนับสนุนที่ได้พูดไปแล้ว
ซึ่งไม่เหมือนกรณีอื่นที่มีความชัดเจน เช่น การทอดทิ้ง การทารุณกรรม การบังคับใช้แรงงาน การล่วงละเมิดทางเพศ
เป็นต้น
จากปัญหาการล่วงละเมิดสิทธิในเด็ก
จากกลุ่มที่มีความคิดแบ่งแยกทางสังคม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ภาครัฐจำต้องแก้ไข
และป้องกันมิให้กระทำซ้ำ หนึ่งในวิธีการนั้นคือการให้
เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินกิจกรรมในสถานศึกษาตาดีกาในพื้นที่ ในลักษณะของการช่วยเสริมในเรื่องของกิจกรรม
โดยไม่ให้กระทบกับเนื้อหา และเวลาเรียนหลักของนักเรียน ซึ่งก็คือในช่วงวันเสาร์ –
อาทิตย์ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากผู้ไม่หวังดีใช้อิทธิพล บิดเบือน
เนื้อหาและหลักคำสอน ช่วยป้องกันการบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง
ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนในทางที่ไม่ถูกต้อง
หรือมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดในอนาคต
อีกทั้งช่วยในการรักษาความปลอดภัยของครู
นักเรียน ตลอดจนโรงเรียนได้เป็นอย่างดี
ซึ่งก็เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในสถานศึกษา ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ การสวมเครื่องแบบแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ
ว่าเป็นใคร มาจากไหน
อีกทั้งยังช่วยในการสนับสนุนในเรื่องของอุปกรณ์การเรียน
ที่ตาดีกาซึ่งไม่ได้ยึดโยงกับมัสยิดในพื้นที่ขาดแคลน การที่เด็กๆ ได้พบเห็น สัมผัส
กับเจ้าหน้าที่ เป็นการเรียนรู้ในเบื้องต้นที่จะอยู่ร่วมกับสังคมจริงในอนาคต
ที่มีความหลากหลาย และปลูกความรู้สึกที่ดีต่อกัน
การจะชี้ชัดว่าใครละเมิดสิทธิเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
ไม่อาจอาศัยกรอบการมองแบบฉาบฉวย เมื่อมองให้ลึกลงไปจะพบว่า ฝ่ายหนึ่ง เผาโรงเรียน
สังหารชาวบ้านและเด็กทำร้ายครู ปลูกฝังในเรื่องที่ผิด
หวังให้เป็นเครื่องมือของกลุ่มตนในอนาคต กับอีกฝ่ายหนึ่งที่กระทำตรงกันข้ามเพื่อให้เด็กๆ
เป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นกำลังของชาติในอนาคต เปรียบแล้วฝ่ายหนึ่ง คือ เชื้อโรคร้าย
อีกฝ่ายคือวัคซีน
ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งตะโกนก้องโลกโซเชียลว่า
ตนเองปกป้องสิทธิเด็กอย่างแข็งขัน ขณะที่ฝ่ายเดิมยังคงก้มหน้าก้มตาปกป้องสิทธิเด็กด้วยการกระทำ
คุณว่า ใคร?
คือตัวจริง ที่ละเมิดสิทธิเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น