🗣🗣ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันแสวงหาทางออกและอย่าปิดประตูตายในการพูดคุยสันติสุข
ชาวไทยพุทธใน
4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพบปะเพื่อบอกเล่าสถานการณ์ของชาวไทยพุทธในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อพลเอกชุลกีฟลี ไซนัส อบิดิน ผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขฝ่ายมาเลเซีย
ระหว่างการเดินทางมาพบเครือข่ายชาวไทยพุทธที่วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์
จังหวัดปัตตานี โดยมีพลเอกวัลลภ รักเสนาะ
หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทยเดินทางมาด้วย
โดยตัวเเทนชาวพุทธได้รายงานตัวเลขของชาวไทยพุทธ
ที่ลดลงต่อเนื่องจากสถานการณ์ทำให้การย้ายถิ่น
โดยก่อนเกิดเหตุความไม่สงบมีคนไทยพุทธกว่า 300,000คน คนมุสลิมกว่า 1,700,000 คน
เเต่ความรุนเเรงช่วง 19 ปี ทำให้คนไทยพุทธบาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 9,700คน
ทำให้ปัจจุบันเกิดการย้ายถิ่นเหลือคนไทยพุทธ 150,000 คน หรือร้อยละ 6.6
จึงอยากให้ยุติความรุนแรงกับคนไทยพุทธ
อย่างไรก็ตาม
ก่อนหน้านี้
เครือข่ายชาวไทยพุทธเคยยื่นเสนอต่อโต๊ะการพูดคุยระหว่างคณะพูดคุยฝ่ายไทย
และกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยอยากเห็นพื้นที่สาธารณะปลอดภัย
และงดเว้นการก่อเหตุกับพลเรือนเพื่อให้ทุกคนได้ปลอดภัยไม่ว่านับถือศาสนาใด
ขณะที่พลเอกชุลกีฟลีฯ
กล่าวว่า ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาภายในของไทย
โดยมาเลเซียมาทำหน้าที่คนกลางเพื่อช่วยแก้ปัญหา ซึ่งในพื้นที่มีความหลากหลายของคนหลายศาสนา
จึงไม่อาจใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือแนวทางใดแนวทางหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาได้
แต่ต้องแสวงหาแนวทางร่วมกัน
ซึ่งการบรรลุข้อตกลงในการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์ร่วม
หรือ JCPP
ร่วมกันภายใน 2 ปีจะเป็นโรดแมปสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
นอกจากนี้ยังยกตัวอย่าง
ปัญหาความขัดแย้งกับกลุ่มคอมมิวนิสต์มลายาในมาเลเซียในอดีต
ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งทางการไทยช่วยเป็นคนกลางจนได้ข้อตกลงหยุดยิง
พร้อมชี้ว่า ปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นจากคนบางกลุ่ม ไม่ใช่ปัญหาของศาสนา และขอให้ทุกคนอย่าปิดตายปฏิเสธการพูดคุย
เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเเก้ปัญหา จึงอยากให้ทุกคนเข้ามาพูดคุย นำเสนอปัญหา
เพื่อหาทางออกร่วมกัน
ขณะที่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุขฝ่ายมาเลเซียได้ร่วมละหมาดกับชาวไทยมุสลิมที่มัสยิดกลางปัตตานี
ก่อนล้อมวงพูดคุยกับชาวบ้าน
โดยยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของมาเลเซียที่จะช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบอย่างเต็มที่
ซึ่งตัวเองจะนำประสบการณ์จากการทำงานด้านสันติภาพมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หลังจากนั้น
พลเอกชุลกีฟลีฯ ได้เดินทางไปที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปัตตานี และแวะทักทายพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเช้าอย่างเป็นกันเอง
และได้ซื้ออาหารพื้นบ้านของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มารับประทาน
ก่อนจะเดินทางต่อไปร่วมพูดคุยกับชาวบ้านที่ร้านน้ำชา
ซึ่งถือเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น