เลขาธิการ
ศอ.บต. ระบุ
“รัฐบาลเร่งเดินหน้าสร้างตัวตนให้กับกลุ่มคนที่ไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร์เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานจากภาครัฐอย่างเท่าเทียม”
เมื่อ
21 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคาร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) พลเรือตรี
สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรมการตรวจสารพันธุกรรม(DNA)
และอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในประเทศ ครั้งที่
1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 22
ธันวาคม 2565 โดยมี นายอิสระ ละอองสกุล
ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง(ศอ.บต.)
ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ที่มารับการตรวจ DNA
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 330 คน
พลเรือตรี
สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ทาง ศอ.บต. ได้ดำเนินการเรื่องนี้มา
4 ปีแล้ว ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงห่วงใยในเรื่องนี้ โดย
ศอ.บต. ดำเนินการมาแล้วกว่า 2,308 ราย
ซึ่งเป็นพลเมืองไทยแต่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่มีตัวตน
เริ่มต้นตั้งแต่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ทางรัฐบาลได้เน้นย้ำให้ดูแลให้ทั่วถึง โดยทำร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกระทรวงยุติธรรม ทาง ศอ.บต. ไม่ได้ตรวจแค่ DNA ยังมีหลายครัวเรือนที่เดินต่อไม่ได้ ยังมีปัญหาสุขภาพ ศอ.บต.
จะดูแลเรื่องสุขภาพต่อรวมทั้งดูแลในเรื่องการทำมาหากิน ดูแลในทุกมิติ ซึ่ง กว่า 2,000 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือ ตอนนี้ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนชาวไทยแล้ว
ก่อนหน้านี้ ถือได้ว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่มีตัวตน รวมถึงกลุ่มใหญ่ที่ทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์
แต่หลังจากได้บัตรแล้วได้ทยอยกลับมาใช้ชีวิตยังภูมิลำเนา และทำงานอยู่ในประเทศไทย และทำมาหากินที่นี่
อย่างไรก็ตามไม่ได้เพียงแค่เพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์หรือทำบัตรประชาชน
แต่หมายถึงการให้โอกาสให้ชีวิตใหม่ในแผ่นดินเกิด
คิดว่างานนี้เป็นงานที่สำคัญอีกหนึ่งงานของการคลี่คลายปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายดอฮะ มะเซ็ง
ซึ่งนำญาติมาร่วมตรวจสารพันธุกรรม DNA ในครั้งนี้
กล่าวขอบคุณ ศอ.บต. ที่ได้จัดโครงการนี้ขึ้น ญาติของตนไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
และยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ โครงการคนละครึ่ง
เนื่องจากไม่มีหลักฐานในการยืนยันตัวตน ดีใจมากที่ทาง ศอ.บต. ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา
เพราะจะทำให้ผู้ที่ไม่มีบัตร สามารถใช้บริการสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ
จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทยได้
ด้าน
นางสาวกัลยาณี ดือราแม มารดาของเด็กชายอิลมาน ดือราแม
ซึ่งนำบุตรมาร่วมตรวจสารพันธุกรรม DNA ในครั้งนี้ กล่าวว่า
บุตรชายตนเกิดที่ประเทศมาเลเซีย
ปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศไทยและยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชน
จึงได้มาร่วมกิจกรรมซึ่งบัตรประชาชนถือได้ว่ามีความจำเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการรักษาเวลา เข้าโรงพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วย
กิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมากพอทราบว่ามีกิจกรรมนี้ขึ้นจึงสนใจที่จะมาเข้าร่วมขอขอบคุณทาง
ศอ.บต. ที่จัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ขึ้น
ในปีหน้าบุตรชายก็จะเข้าโรงเรียนตามเกณฑ์ได้อีกด้วย
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาคนด้อยโอกาส
และขาดโอกาสทางสังคม รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์
หรือไร้สัญชาติจากการสำรวจของทางราชการ การไม่แจ้งเกิดการขาดความรู้ความเข้าใจ
ในการรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร์
รวมไปถึงการไม่มีเอกสารของทางราชการหรือไม่มีบุคคลที่สามารถเป็นพยานเพื่อยืนยันสถานภาพ
ทำให้ประชาชนบางส่วนกลายเป็นคนไทยไร้สัญชาติ หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์
ถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะสืบสายโลหิตจากพ่อและแม่ที่เป็นคนไทยก็ตาม
จึงทำให้บุคคลเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ เสรีภาพ และการบริการขั้นพื้นฐานต่าง
ๆ จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทยได้
ศอ.บต.
จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมการปกครอง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
สถานกงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะ ทางทะเบียนราษฎร์
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
จนถึงปัจจุบันโดยต้องอาศัยผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA)
ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต เพื่อให้ความยุติธรรมกับบุคคลกลุ่มเปราะบาง
ให้มีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทย
และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
องค์กรภาคีภาคประชาสังคมและภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น