💥เร่งล่าตัวโจรใต้ ซุ่มยิง ตร.ที่สายบุรี
รถพรุน บาดเจ็บอีก 1 นาย
เมื่อ
5 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา
20.00น.ของวันที่ 4 ต.ค.65
ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน บนถนนภายในหมู่บ้านช่องแมว ม.4 ต.ละหาร
อ.สายบุรี
ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
หลังรับแจ้ง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบที่เกิด เมื่อไปถึงพบว่าเป็นถนน 2
เลนในหมู่บ้านสภาพมืด บนถนนพบรถเก๋งยี่ห้อ มาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน งข 519 สงขลา
จอดอยู่บนถนนในสภาพเปิดไฟหน้ารถ มีรองรอยถูกอาวุธปืนสงคราม จนเป็นรูเกือบ 20 รู
ทั้งบริเวณกระจกหน้ารถ กระจกประตูหน้าและหลังห้องโดยสารด้านขวามือ
นอกจากนี้ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ 2 คันล้มอยู่ในป่า
ส่วนผู้บาดเจ็บ
มีผลเมืองดี นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ทราบชื่อ คือ ส.ต.ท.ซอฟรอน
จุลนิติกุล อายุ 25 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ อ.สายบุรี
ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนที่บริเวณแขนขวา แพทย์ได้ช่วยเหลือจนปลอดภัย
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ
ส.ต.ท.ซอฟรอน กำลังเดินทางไปบ้านภรรยา ใน ต.ละหาร หลังจากได้ออกจาก เข้าเวรยามจุดตรวจ
ระหว่างทางได้มี คนร้าย 4 คนใช้รถ จยย.จำนวน 2 คัน ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงใส่ทันที
ทำให้ ส.ต.ท.ซอฟรอนฯ หักรถเพื่อหลบกระสุน ก่อนที่รถจะดับข้างทาง
คนร้ายพยายามจะเข้ามายิงซ้ำ แต่ส.ต.ท.ซอฟรอนฯ ยังมีสติ จึงชักอาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้คนร้ายหลายนัด
ทำให้คนร้าย เสียหลักล้มทิ้งรถ จยย.ก่อนล่าถอยวิ่งหนีเข้าไปในป่า
พ.ต.อ.เฉลิมชัย
เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้
เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยรู้ความเคลื่อนไหวของ
ส.ต.ท.ซอฟรอนฯ ที่จะใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อเดินทางไปบ้านภรรยาบ่อย ๆ
และเมื่อได้โอกาสก็ได้ก่อเหตุ แต่โชคดีที่ ส.ต.ท.ซอฟรอนฯ ยังมีสติถึงแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้เก็บรวบรวมวัตถุพยาน โดยเฉพาะปลอกกระสุน เอ็ม 16 เกือบ 20
ปลอก เชื่อว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธ 2 กระบอกหวังเอาชีวิต แต่เมื่อถูกยิงตอบโต้ จึงทิ้งรถ
จยย.ไว้ก่อนจะหลบหนีไป เชื่อว่าคนร้ายน่าจะถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อนพาหลบหนี
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังไล่ล่าและปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายแล้ว คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมีความพยายามทำร้ายเจ้าหน้าทีรัฐ เพื่อสร้างสถานการณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น