ของกลางเงินสด 120,000 บาท เป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปัตตานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจยึดได้จากนักวิชาการที่ดินชำนาญการ หัวหน้างานนิติกรรม 2 สำนักงานที่ดิน จังหวัดปัตตานี เรียกรับจากชาวบ้านรายหนึ่ง เพื่อแลกกับการอนุมัติขอแบ่งแยกโฉนดที่ดินหมู่บ้านจัดสรร ทำให้ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.จึงได้วางแผนซุ่มกำลังอยู่โดยรอบ จนกระทั้งเมื่อมีการส่งมอบเงินเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุม บริเวณห้องรับประทานอาหารของสำนักงานที่ดิน พบเงินสดจำนวนดังกล่าวในกระเป๋ากางเกงด้านหลังด้านซ้าย ซึ่งมีหมายเลขธนบัตรตรงกับเลขธนบัตรที่จดบันทึกไว้ทุกฉบับ
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต
และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง
หรือผู้อื่นโดยมิชอบเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
โดยอ้างว่าเป็นเงินที่รับไว้จริง แต่คิดว่าไม่ได้เป็นการกระทำความผิด
สำหรับพฤติกรรมทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายว่า ได้จัดสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรรมิตรภาพบ่อทอง
ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยได้ดำเนินการขอรังวัดเพื่อแบ่งแยกโฉนดที่ดิน เพื่อประกอบการขายให้เป็นไปตามระเบียบ
ต่อมาผู้เสียหายได้รับการติดต่อเจ้าพนักงานทะเบียนสำนักงานที่ดินจังหวัดปัตตานี
เพื่อขอค่าดำเนินการแบ่งแยกโฉนดที่ดินจำนวน 8 แปลงๆ ละ 15,000 บาท คิดเป็นเงิน
120,000 บาท และนัดให้ผู้เสียหายนำเงินมามอบให้ในวันที่ 29 ก.ย.65
กระทั้งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมได้
ทั้งนี้
ยังไม่ได้มีการส่งฟ้องคดีในชั้นศาล
ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ข้อมูล:ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น