ผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านยาเสพติดแห่งชาติ
ประเทศมาเลเซีย แจ้งเตือน นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่เดินทางมาพักผ่อนในเมืองไทย
อย่าทานอาหาร หรือ ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกัญชา ที่ยังผิดกฎหมายของประเทศมาเลเซีย
และเตรียมสุ่มตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด ตามด่านพรมแดน มาเลเซีย - ไทย ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
เมื่อวันที่
25 ก.ค.65 มีรายงานว่า นาย ต่วน ซูเทคโน อาหาหมัด
ผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านยาเสพติดแห่งชาติ ประเทศมาเลเซีย
ได้กล่าวเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยว่า
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ กัญชา
แม้ว่าไทยจะถอดถอนกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 เมื่อต้นเดือน
มิ.ย.ที่ผ่านมา แล้วก็ตาม
แต่ในประเทศมาเลเซียกัญชายังถือเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย
และจะมีการสุ่มตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด ที่ด่านพรมแดน มาเลเซีย ที่ติดกับไทย
ทั้งหมด
โดยจะทำการสุ่มตรวจบุคคลที่น่าสงสัย
โดยจะเริ่มสุ่มตรวจอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
ผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านยาเสพติดแห่งชาติ
ประเทศมาเลเซีย กล่าวอีกว่า
จึงขอเตือนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยควรเลือกสถานที่พักผ่อน
ที่ได้รับมาตรฐานอย่างเหมาะสม และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา
หากประชาชนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแล้วบังเอิญกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาระหว่างพักผ่อนในไทย
ซึ่งบุคคลที่กินหรือดื่มสิ่งที่มีส่วนผสมของกัญชา
เมื่อมีการตรวจพบและถูกจับเพราะทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย บุคคลนั้นๆ
จะถูกตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด
จากนั้นจะถูกสอบสวนและต้องให้การชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่าเพราะเหตุใดจึงมีสารเสพติดในร่างกาย
แม้ทางการมาเลเซียไม่มีสิทธิที่จะแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย
แต่ประชาชนชาวมาเลเซียจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศตัวเองเช่นกัน ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการบริโภคกัญชาดีที่สุด
เพื่อหลีกเลี่ยงการชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ทางการเมื่อมีการตรวจพบเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศมาเลเซีย
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่
อ.เบตง จ.ยะลา บอกกว่า
ตนเองทราบดีว่ากัญชาในประเทศมาเลเซียยังผิดกฎหมายของประเทศอยู่
แต่ในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือใน อ.เบตง ของไทย ตนเองและเพื่อนๆที่มากับกรุ๊ปทัวส์
มีความไว้ใจร้านอาหารที่ตนเองและเพื่อนในกรุ๊ปทัวส์ลงมารับประทานอาหารกัน
และเชื่อว่าทางร้านไม่มีส่วนผสมกัญชา เพราะทางร้าน เข้าใจกฎหมายของมาเลเซีย เพราะคนเบตงที่นี่มีความสนิทสนมกับคนมาเลเซียและรู้ดี
หากผสมกัญชาเข้าไปในอาหารพวกเขาจะต้องได้ถูกทางการตรวจสอบ ตนเลยเชื่อว่าร้านอาหารในเบตงคงไม่มีร้านไหนเอากัญชามาผสมแน่นอน
อีกอย่างกัญชามีราคาแพงด้วย
และคนมาเลเซียเองที่เข้ามาท่องเที่ยว ไม่ใช่มาหากัญชามาเสพ แต่เข้ามาท่องเที่ยว
เพราะ ชอบอาหาร รสชาดของเบตงและมีเมนูหลักก็จะเป็นอาหารพื้นเมือง และผลไม้ตามฤดูกาล
โดยเฉพาะช่วงนี้จะมาหากินทุเรียน
ตนเองเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียทุกคนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
นั้นทุกคนรู้ดีและหลีกเลี่ยงสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะกัญชา สิ่งเสพติด
อย่างอื่นก็เช่นกัน ที่มาเที่ยวก็เพื่อหาความสำราญ คลายเครียด
หลังเผชิญวิกฤติการระบาดของไวรัสโคงวิด-19 กว่า 2 ปี
โดยที่ประเทศมาเลเซียก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดในครั้งนี้หนักเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น