วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

กาแฟชายแดนใต้สู่คาเฟ่อเมซอน สร้างอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น พร้อมยกระดับสู่สากล

 

จากพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หันมาปลูกกาแฟ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้เป็นอย่างดี ศอ.บต. ในฐานะหน่วยนำด้านการพัฒนาในพื้นที่ จึงได้จับมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ และฝ่ายธุรกิจ คาเฟ่อเมซอน บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนและพัฒนากาแฟโรบัสต้า ที่ปัจจุบันถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง ที่เกษตรกรในพื้นที่นิยมปลูกกันมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเบตง อำเภอธารโต จังหวัดยะลา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

นายจีรวัฒน์ นุ่นศรี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานรักบ้านเกิด ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เป็นจุดกำเนิดของกาแฟโรบัสต้า ที่แรกของประเทศไทยแต่เนื่องจากในอดีตเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกต้นยางซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ทำให้กาแฟยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เกษตรกรในพื้นที่จึงได้โค่นต้นกาแฟทิ้งไป แต่ยังคงเหลือสายพันธุ์ดั่งเดิมที่มีอายุมากกว่า 300 ปี ขึ้นอยู่ริมเชิงเขา บริเวณถ้ำคอก ซึ่งสถานที่นี้เคยเป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมฐานของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เมื่อครั้งเดินทางไปธุดงค์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เกษตรกรจึงได้มีแนวคิดในการรวบรวมสมาชิกและจัดตั้งกลุ่ม วิสาหกิจขึ้นมาและปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าอีกครั้ง

เพื่อต้องการอนุรักษ์ไว้ให้คอกาแฟได้ลองชิมกัน สำหรับความพิเศษของกาแฟโรบัสต้าโดยทั่วไปเมล็ดกาแฟจะมี 2 ซีก แต่เมล็ดกาแฟที่นี้จะมีลูกเดียว ทำให้สารอาหารที่อยู่ในกาแฟเยอะกว่า และจะมีรสชาติดีกว่ากาแฟทั่วไป ซึ่งเรียกว่าดิวเบอร์รี่หรือไฟน์โรบัสต้า อีกทั้งที่นี้ยังมีกาแฟโรบัสต้ายอดดำ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตำบลเขาแดง ที่ขณะนี้เกษตรกรได้ใช้พื้นที่กว่า 3 ไร่ เป็นแปลงสาธิต ทดลองปลูกผสมผสานกับพืชชนิดอื่น โดยความพิเศษของสายพันธุ์โรบัสต้ายอดดำ ลักษณะใบจะมีสีดำออกม่วง หากมีดอกจะมีสีขาวขอบม่วง ผลสีดำออกม่วง รสชาติหวานไม่เปรี้ยว มีความนุ่มละมุน เข้มข้นกว่ากาแฟทั่วๆไป นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณที่จะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดี  จนทำให้ปัจจุบันกาแฟยอดดำ ได้รับความนิยมและเป็นที่ถูกใจถูกคอของนักดื่มกาแฟมากขึ้น

ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ฯ เปิดเผยต่ออีกว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ ศอ.บต.ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกกาแฟ พร้อมกันนี้ยังได้นำผู้แทนจากบริษัทคาเฟ่อเมซอนเข้ามาดูพื้นที่ และให้ความรู้ ข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกันจะเตรียมจัดทำแผนในการพัฒนา และหาข้อปรับปรุงผลผลิตให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด โดยคาดว่าปลายปีนี้ทางบริษัทคาเฟ่อเมซอนจะสามารถรับซื้อผลผลิตได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ในการเพิ่มช่องทางทางการตลาดให้กว้างมากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ตามในการดำเนินการของ ศอ.บต. ซึ่งมีแนวทางที่จะสนับสนุนและส่งเสริม เพื่ออนุรักษ์พันธุ์กาแฟโรบัสต้ายอดดำไว้ โดยจะร่วมมือกับคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการเพิ่มการเพาะพันธุ์เนื้อเยื่อกาแฟ ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ดำเนินการประสบความสำเร็จมาแล้วด้วย และนอกจากนี้ ศอ.บต. จะร่วมกับบริษัทคาเฟ่อเมซอน พัฒนารสชาติกาแฟให้มีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น พร้อมยกระดับกาแฟชายแดนใต้สู่สากล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น