วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ปธ.สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จชต. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ #ไม่เห็นด้วย “กัญชาเสรี”

 

🍁🍁ปธ.สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จชต. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ #ไม่เห็นด้วย “กัญชาเสรี”

เมื่อ 18 ก.ค.65 ที่อาคารศาลากลางจังหวัดปัตตานี สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือไม่เห็นด้วย เรื่องกัญชาเสรี และสมรสเสมือน (สมรสเพศเดียวกัน) ให้แก่ นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ฝากส่งผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทบทวนกฎหมาย 2 เรื่องนี้ให้เร่งด่วน

โดยเนื้อหาใจความหลักที่ได้ยื่น มีข้อความบางส่วนระบุว่า หากสถานการณ์กัญชาเสรี ในสภาวะสุญญากาศเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อเนื่องไปนาน จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะต่ออนาคตของเด็กและเยาวชนไทยในระยะยาว ประเทศไทยจึงไม่ควรตกอยู่ในสภาวะสุญญากาศนาน ต้องให้มีนโยบายควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดอย่างเพียงพอโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม การออกแบบมาตรการเพื่อควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดนั้นมีรายละเอียดมาก ต้องการการออกแบบอย่างรอบคอบ เช่น กัญชาจะยังเป็นยาเสพติดหรือไม่ ประเทศไทยต้องการนโยบายกัญชาทางการแพทย์ หรือกัญชาเพื่อเศรษฐกิจ หรือกัญชาเพื่อนันทนาการ จะให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนหรือไม่ จำนวนเท่าใด จะควบคุมเยาวชนนำช่อดอกกัญชาไปสูบได้อย่างไร จะควบคุมการทำธุรกิจกัญชาแค่ไหน เพียงใด จะควบคุมการโฆษณา และการส่งเสริมการขายหรือไม่ เพียงใด จะปกป้องเยาวชนอย่างไร จะปกป้องผู้ไม่เสพใช้กัญชาอย่างไร เป็นต้น

ดังนั้น เมื่อเห็นว่าประชาชนจำนวนมากใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ และจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการบริโภคกัญชาแบบไม่รู้ตัวอย่างชัดเจน จึงควรพิจารณาทบทวนนโยบายกัญชาเสรีดังกล่าว ซึ่งทำได้ง่ายมาก เนื่องจากการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเป็นเพียงประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยควรที่จะต้อง "ปิดสภาวะสุญญากาศทันที" และจัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาของประเทศไทย ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาต่อไป บนจุดยืนการสนับสนุนนโยบายกัญชาทางสายกลาง คือ การใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายกัญชาเสรี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้สอบถามกลุ่มเยาวชนมุสลิมในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลายปากได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ตนยังไม่เห็นด้วยกับการปลดล็อกกัญชา เพราะจะยิ่งจะทำให้เยาวชนหันไปพึ่งยาเสพติดมากขึ้น มีทางเลือกเพราะหาซื้อง่าย แม้กระทั่งปัจจุบันก็มีกลุ่มเยาวชนติดยามากอยู่แล้ว จะทำให้มอมเมามากขึ้นไปอีก และมีวัยรุ่นขายยาเสพติดมากไปอีก

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ที่ทดลองใช้กัญชาระบุว่า หากนำกัญชาไปประกอบอาหารแบบผิดวิธี ผิดปริมาณ เคยมีเพื่อนๆ นำไปใส่ตัวกัญชาลงในเค้กบราวนี่ ปรากฏว่าจะทำให้มีฤทธิ์เมาหลายเท่าตัว ถึงกับประสาทหลอน นอนไม่หลับ หายใจไม่ออก หนักกว่าการนำกัญชามาสูบเสียอีก อยากให้ในพื้นที่มีการควบคุมตามเดิมมากกว่า อีกอย่างหนึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางการค้ายาเสพติดไปประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ซึ่งมาเลเซีย และอินโดนีเซียยังไม่เปิดตรงนี้

ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางเพื่อยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเรื่องกัญชาเสรี สำหรับการเปิดให้กัญชาเสรี จนขณะนี้ไม่สามารถควบคุมได้ จนได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบไปถึงเยาวชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง แม้กระทั่งใกล้กับโรงเรียนก็ยังมีกัญชา และกัญชงขาย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนอีกครั้ง เรื่องนี้อยากฝากไปยังสถาบันครอบครัว และสถาบันโรงเรียนต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จะต้องมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกัญชา และกัญชง เป็นสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น