📌📌การสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์เพื่อสกัด
Fake
News
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “อินเตอร์เน็ต”
ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทำให้รูปแบบของการสื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนนำไปสู่การเกิดเครือข่ายสังคมใหม่ที่เรียกว่า
“เครือข่ายสังคมออนไลน์” (Social
Network) เกิดเป็นพื้นที่สาธารณะที่สมาชิกทุกคน ทุกเพศสภาพ ทุกวัย
ทุกเชื้อชาติและศาสนา ทุกระดับการศึกษา ทุกสาขาอาชีพ
เป็นผู้สื่อสารหรือเขียนเล่าเนื้อหาเรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ
ที่สมาชิกเขียนและทำขึ้นเองหรือพบเจอจากสื่ออื่น ๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตนผ่านสื่อสังคมออนไลน์(Social
Media) ในขณะที่ข่าวปลอมหลากหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจำนวนมากมาจากสื่อสังคมออนไลน์
ซึ่งเป็นภัยเงียบที่สร้างความสูญเสียและผลกระทบมากโดยเฉพาะกับความมั่นคง
ดังนั้นการเสริมสร้างสร้างภูมิคุ้มกันให้รู้เท่าทันสื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อสื่อสังคมออนไลน์
และมีความตระหนักรู้ในการใช้สื่อและสามารถวิเคราะห์
และประเมินสื่อจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับประชาชนและเป็นการป้องกันประชาชนจากภัยร้ายที่แฝงมากับสื่อสังคมออนไลน์
ยิ่งการที่มีคนบางกลุ่มที่ไม่หวังดี
พยายามสร้างข่าวลวง (Fake
News) ซึ่งอาจเป็นเพราะความเกลียดชัง สร้างความแตกแยก
หรือหวังผลทางการเมืองทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น ดังที่ข่าวสารต่าง ๆ
ที่ถูกแชร์ออกมามากมายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน
บ้างก็เป็นภาพที่บรรจงแต่งขึ้นมา บ้างก็เป็นข้อความ ซึ่งส่วนมากไม่มีการระบุแหล่งที่มาหรืออ้างแหล่งที่ผิดๆ
จนหลายคนไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่
ยิ่งล่าสุดในสถานการณ์การเผยแพร่ข่าวปลอม (Fake News) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เราจะเห็นรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน หรือการนำภาพของผู้บังคับบัญชาของ
กอ.รมน.ภาค 4 สน. ถูกแชร์ออกไป
แต่มีการบิดเบือนข้อความเป็นการโจมตีให้ร้ายเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคง
ว่ามีการการใช้อำนาจเกินกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน
และมีการข้อความกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ภาครัฐขัดขวางการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในเรื่องการแต่งกายซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น
ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วเป็นภาพการปฏิบัติงานเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนของเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนของ
กอ.รมน.ภาค 4 สน.
ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐนั้น มีเจตนาที่ดีและมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้
มีการปฏิบัติงานตามขั้นตอน โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน มีความยุติธรรม
รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงให้การส่งเสริม และสนับสนุนประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ
ไทยมุสลิม และคนไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขบนวิถีสังคมพหุวัฒนธรรมมีสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิต
และแสดงออกความเป็นอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นตามหลักศาสนา
เราอยู่ในสังคมของการ
Click,
Like และ Share ผู้คนจำนวนมากเลือกคลิกข้อมูลต่างๆ
ขึ้นมาอ่านอย่างผิวเผิน มีการกด Like ด้วยความชื่นชม
และบางครั้งก็ส่งข้อมูลที่อ่านคร่าว ๆ เหล่านั้นแชร์ให้กระจายออกไป
ถ้าสังคมมีความอ่อนแอขาดภูมิคุ้มกันไม่สามารถแยกแยะ “ข่าวจริง” กับ “ข่าวปลอม”ได้
ประชาชนจะบริโภคข้อมูลผิด ๆไป ทำให้เกิดความเสียหายได้
ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนในการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์จะเป็นการเลือกรับข้อมูลข่าวสารและสกัด
Fake News ได้
เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีในการเผยแพร่ Fake
News ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและสังคม
ตลอดไปจนถึงความมั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น