🚩🚩สืบสาน “บุหงาซีเร๊ะ”
วัฒนธรรมท้องถิ่นชาวมลายูภาคใต้
บายศรี
ใบพลู หรือ พานหมากพลู หรือ บุหงาซีเร๊ะ เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวมลายู
โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะประกอบด้วยหลักใหญ่ คือ ใบพลู
ซึ่งคนที่นี่จะเรียกว่า ซีเร๊ะ สำหรับใบพลู จะมีลักษณะเด่นเป็นรูปหัวใจ
กินคู่กับหมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องที่อยู่ในขบวนแห่ขันหมาก พิธีสำคัญต่างๆ
ซึ่งจะใช้รับ แขกบ้านแขกเมืองของชาวมลายูพื้นถิ่นที่นี่ตามคติความเชื่อ
ใบพลูมีนัยยะที่แสดงออกถึงความรัก หมากจะมีความอ่อนในแข็งนอก
ในส่วนของอุปกรณ์หลักๆ การจัดเตรียมการทำบุหงาซีเร๊ะ จะมีกระโจมไม้ไผ่ พาน ใบพลู
ดอกไม้ ใบไม้ ที่จะนำมาใส่ในตัวกระโจมให้แน่น และประกอบต่อไปทีละชั้น
ในชั้นของบุหงาซีเร๊ะ จะสื่อความหมายต่างๆ เช่น 3 ชั้น
จะใช้ในงานเข้าสุหนัต งานแต่งงาน 7 ชั้น
จะใช้รับแขกบ้านแขกเมือง 9 ชั้น จะใช้รับองค์เจ้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะนับเป็นเลขคี่
ส่วนความสวยงามของ บุหงาซีเร๊ะนั้น จะอยู่ที่การจัดเรียงใบพลูซ้อนกันเป็นชั้นๆ
เพื่อให้การเรียนรู้การทำบุหงาซีเร๊ะ
อย่างถูกต้องตามหลักประเพณีโบราณและเรียนรู้องค์ความรู้ที่แฝงอยู่ในบุหงาซีเร๊ะ
และร่วมอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของ
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้คงอยู่สืบไป ทางอุทยานการเรียนรู้ยะลา จึง
ได้จัดอบรม การทำบุหงาซีเร๊ะ ขึ้น เพื่อให้ประชาชน ได้ทราบถึงประเพณี
และได้เรียนรู้ ศึกษาต่อยอดต่อไปในอนาคต อีกทั้ง
ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด สร้างความรักสามัคคีในชุมชน
ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งประชาชนทั่วไป รวมถึง ครูในพื้นที่ จ.ยะลา
เข้าร่วมการอบรม
คุณครูจากโรงเรียนในพื้นที่
ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา บอกว่า ปกติจะทำไม่เป็น แต่มีความชอบ
การทำบุหงาซีเร๊ะ พอได้มาเรียนรู้ก็มีขั้นตอน ที่ทำอยู่ก็ผิดๆ ถูก ๆ
หลังจากทำเป็นแล้ว ก็จะได้นำความรู้ไปทำเวลามีกิจกรรมที่โรงเรียน รวมถึง
จะได้ฝึกนักเรียนที่โรงเรียนด้วย
ส่วนประชาชนทั่วไป
บอกว่า อยู่ในพื้นที่ 5 จชต.มาตลอดชีวิต สนใจ 3 วัฒนธรรมมาก
เราคนจีนก็รู้เรื่องจีนแล้ว ไทยพุทธก็พอรู้แล้ว ส่วนอิสลามเราอยู่กับเค้ามาตั้งแต่เกิด
รู้จักน้อยมากด้านวัฒนธรรม พอมีการสอนก็อยากจะรู้จัก จะได้ถ่ายทอดบอกลูกหลานต่อ
อยู่ในสังคมเดียวกันเป็นเพื่อนกัน พหุวัฒนธรรมควรเรียนรู้ทั้งหมด
ทางด้านวิทยากร
นายสมาน โดซอมิ ประธานศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านกือเม็ง อ.รามัน
จ.ยะลา บอกว่า บุหงาซีเร๊ะ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคปัตตานี
หัวเมืองภาคใต้ มีการทำใบพลู เครื่องสูงของราชสำนักปัตตานี
บายศรีใบพลูมีเอกลักษณ์เฉพาะ มลายูทางภาคใต้ ทางใต้ตอนบนแบบหนึ่ง ใต้ตอนล่างอีกแบบ
มาเลย์อีกแบบ สามจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน ถิ่นปัตตานี ยึดหลักเมืองยะหริ่ง นราธิวาส
อีกแบบ ส่วนยะลา ยึดถือทางราชสำนักรามัน
ซึ่งขั้นตอนการทำหลักการปฏิบัติของคนโบราณอยู่แล้ว
อยู่ที่ 3 ชั้น 7 ชั้น 9 ชั้น
การทำบายศรีใบพลู จะลงเลขคี่ เพราะความสำคัญของบายศรีใบพลู เป็นเครื่องมงคล ต่างๆ
มลายูเรียกว่า ลายา 12 จะใช้หลากหลายงานพิธีสำคัญต่างๆ ทั้ง
แต่งงาน เข้าสุหนัต ขึ้นเปล บ้านใหม่ สมัยโบราณ ขบวนแห่ขันหมาก แขกบ้าน แขกเมือง
ของชาวมลายูพื้นถิ่น รวมถึงงานเมาลิด เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนโบราณเครื่องสูงใส่ในพาน
ในถาด บายศรีใบพลูถือว่าความมงคล เครื่องประดับ 3
ชั้นสำหรับบุคคลทั่วไป 5 ชั้น ระดับขุนนาง 7 ชั้น ขึ้นไประดับเจ้าเมือง ขบวนแห่รับอาคันตุกะ
สำหรับในปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูการสอนทำบุหงาซีเร๊ะ
ขึ้นมาใหม่ ทางสถาบันทางการศึกษาได้ให้ความสนใจนำเด็ก เยาวชน ไปเรียนรู้
รวมไปถึงกลุ่มแม่บ้านต่างๆ ก็เข้ามาเรียนกันแพร่หลายกันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่แล้ว
บางคนหากฝีมือดี มีความประณีต ก็สามารถนำไปทำเป็นอาชีพได้ ซึ่งการทำบุหงาซีเร๊ะ 3
ชั้น ราคาจะอยู่ที่ 700 บาท ส่วน 5
ชั้นก็จะตกอยู่ที่ 1,300 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น