วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2565

ก่อเหตุในเดือนรอมฎอน ได้ผลบุญเยอะจริงๆ หรือ ?

 

ก่อเหตุในเดือนรอมฎอน ได้ผลบุญเยอะจริงๆ หรือ ?

ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาที่เรียกร้องความสันติสุข และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมานฉันท์ บนพื้นฐานความรัก ความเอื้ออาทร ความถูกต้อง และความเป็นธรรม แต่มีคำถามอยู่ตลอดว่า การก่อเหตุช่วงเดือนรอมฎอน ได้บุญหรือบาป? เป็นคำถามที่ไม่น่ามีขึ้น... ในหมู่พี่น้องมุสลิม ในบ้านเรา แต่ก็ได้ยินทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 18 กว่าปีที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งรอมฎอนปีนี้ก็ยังได้ยินได้อ่านพบ แท้จริงแล้วเดือนรอมฎอน เป็นเดือนแห่งการถือศีล ศึกษาคัมภีร์อัล-กรุอานสำหรับชาวมุสลิม และวิงวอนขออภัยโทษถึงความผิดที่ผ่านมา จากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ได้รับการนำทางที่ถูกต้อง และให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย

แต่...สมุนกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์บนหน้าแผ่นดิน บนคราบน้ำตาของประชาชน ผู้บริสุทธิ์ อย่าง กลุ่มขบวนการเปรียบเสมือนซาตานในคราบมนุษย์ ความสุดโต่ง ได้ใช้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการระดมพล ก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ และได้บิดเบือนว่า จะได้รับบุญเพิ่มเป็นหลายเท่า

ซึ่งชาวมุสลิมทั่วไป ไม่ได้เห็นด้วยกับการตีความแบบนี้ แต่กลุ่มหัวสุดโต่งอย่าง กลุ่มขบวนการ กลับใช้การตีความประวัติศาสตร์ศาสนา สร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่ม โดยไม่ยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า หลอกลวงมุสลิมด้วยกัน แต่คิดๆ แล้ว ก็เหมือนหลอกใช้ หรือหลอกมุสลิมเราให้ไปตายแทน เพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มเพียงอย่างเดียว ไม่มีการยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า แม้จะอยู่ในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม

ยืนยันได้ว่าคำหลอกลวงบิดเบือนของกลุ่มขบวนการ ผู้นำพาความชั่วร้าย และเป็นผู้ชักจูงมวลมนุษย์ไปในทางที่ผิด เนื่องจากความคิดจุดมุ่งหมายของกลุ่มนี้ คือการสร้างความหวาดกลัว การก่อเหตุนองเลือดในช่วงเวลาของการถือศีลเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมได้รุนแรงมากกว่าในช่วงเวลาปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยความชอบธรรมของกลุ่มที่จะถูกตั้งคำถามจากชาวมุสลิมด้วยกันมากขึ้น ว่าเหตุใดผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม จึงเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ส่งเสริม สนับสนุน ให้เราได้ปฏิบัติศาสนกิจ รวมถึงพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนแห่งการแสวงบุญ ในอัลกุรอานได้กล่าวเรื่องการฆ่าผู้บริสุทธิ์ไว้ว่า “แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิได้เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากการบ่อนทำลายในแผ่นดิน ก็เหมือนกับเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งหมด และผู้ใดไว้ชีวิต ก็เหมือนว่าได้ไว้ชีวิตมนุษย์ทั้งมวล” (อัล-มาอิดะฮ์ 32)

และอัลกรุอานยังได้กล่าว เรื่องบาปและความผิดที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นความชั่วร้ายที่สุดทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ รองลงมาจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ คือการฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้กล่าวในอัลกรุอาน ว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิต ซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้นจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัลฟุรกอน: 68-69)

อิสลามเรียกร้องให้อยู่ในหนทางแห่งสันติ เรียกร้องให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ เพศ สีผิว หรือแม้แต่ศาสนา ดังในคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย (อัลอันบียาอ์ : 2:107)

“รอมฎอน” เดือนแห่งความบริสุทธิ์ เดือนแห่งความดีงาม มุสลิมเราทุกคนปฏิบัติศาสนกิจในเดือน “รอมฎอน” นี้อย่างเคร่งครัด ตามบทบัญญัติของศาสดา ดังนั้นในเดือนรอมฎอน จึงไม่ควรที่จะมีการทำลายล้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น