กัสตูรี
มะห์โกตา: ไม่เจรจาในกรอบ รธน.ไทย
ผู้นำพูโลยืนยันไม่เห็นด้วย
กับการพูดคุยสันติภาพในปัจจุบัน ที่ทำภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย
แม้ว่าต้องการให้กระบวนการเป็นการรวมเอาทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องเข้าไว้ด้วยกัน
แต่หากยังทำงานในกรอบนี้ พูโลจะไม่เข้าร่วมแม้อาจจะได้รับเชิญ
หลังการให้สัมภาษณ์สื่อสองรายที่ผ่านมา
และมีข้อมูลบางประการยังขัดกัน Patani NOTES ขอความชัดเจนอีกครั้งจากกัสตูรี
หลังจากที่เขากล่าวถึงกรอบของการพูดคุยในกระบวนการสันติภาพ
กับบทบาทของตนเองในการปฏิบัติการหลังสุด
สำนักสื่อ
Wartani
ออกคลิปบทสัมภาษณ์นายกัสตูรี ในบทสัมภาษณ์ เขายืนยันว่า เหตุการณ์ระเบิดที่สายบุรีเมื่อวานนี้ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต
1 บาดเจ็บอีก 3
เป็นฝีมือของกองกำลังพูโลที่เรียกว่า G5
อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของตนเอง อย่างไรก็ตามเมื่อ Patani NOTES สอบถามอีกครั้งว่า ขณะนี้เขาเป็นผู้บังคับการทางทหารของกลุ่มหรือไม่
ได้รับคำตอบว่า “ผมอาจใช้คำผิด ผมหมายถึง รับผิดชอบกลุ่ม ไม่ใช่บังคับบัญชา”
ส่วนสาเหตุที่ลงมือหนนี้
กัสตูรีบอกกับ Wartani
ว่าเพื่อกดดันให้การพูดคุยสันติภาพมีความจริงจัง และเน้นเป้าหมายเพื่อสันติภาพจริงๆ
ไม่เพียงแค่ยุติการก่อเหตุหรือที่นายกัสตูรีใช้คำว่า “เพื่อความมั่นคง” เท่านั้น
กล่าวคือเป็นการพูดคุยเพื่อสันติสุขไม่ใช่สันติภาพ
เขาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยที่อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย
โดยบอกว่าการพูดคุยควรอยู่ภายใต้ “กรอบสากล” มากกว่า
ซึ่งเขาไม่ได้อธิบายว่าคืออะไร ถัดมาเขาเห็นว่า
กระบวนการพูดคุยที่จะยอมรับได้จะต้อง “ครอบคลุมทุกกลุ่ม”
ไม่ใช่แค่กองกำลังหรือรัฐฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น
“ถ้ากระบวนการยังยึดกรอบ รธน.ไทย เรา (พูโล) ก็ไม่สนใจจะเข้าร่วม”
เขายืนยัน
นายกัสตูรีให้สัมภาษณ์
Wartani
ด้วยว่า
เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีการเข้าร่วมการพูดคุยของฝ่ายขบวนการในปัจจุบัน
เขาเชื่อว่าวิธีการที่ดีกว่าคือการพูดคุยในกลุ่มต่างๆกันเองก่อน เพื่อให้เกิดเอกภาพแล้วจึงคุยกับฝ่ายรัฐบาลไทย
และยังอธิบายด้วยว่า การที่มีการก่อตั้งกลุ่ม G5
ของพูโลก็เพื่อสร้างเอกภาพในหมู่แกนนำ
เหตุการณ์ระเบิดที่สายบุรี
เป็นเหตุรุนแรงหลังสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนถือศีลอด
ซึ่งคณะพูดคุยของรัฐบาลและกลุ่มบีอาร์เอ็นตกลงกันไว้ด้วยวาจาว่า จะลดปฏิบัติการทางทหารลง
ก่อนหน้านั้นก็มีเหตุการณ์ยิงอุสตาสเสียชีวิต แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ไทยระบุว่า
ความรุนแรงที่ผ่านมาในช่วงเดือนรอมฎอนดังกล่าวทำให้จะต้องมีการประสานงาน กับทางกลุ่ม BRN เพื่อทบทวนกันต่อไป อย่างไรก็ตามฝ่ายไทยยังคงเห็นว่า
ความริเริ่มรอมฎอนสันติยังคงเดินหน้าต่อไปได้
กับความเป็นไปได้ที่ว่า
การก่อเหตุหนนี้คือเสียงเรียกร้องให้มีการรวมทุกกลุ่มในการพูดคุยนั้น
นักวิเคราะห์ในฝ่ายรัฐบาลระบุว่า อันที่จริงแล้วเรื่องการให้ใครเข้าร่วมโต๊ะพูดคุย
เป็นเรื่องที่
BRN และกลุ่มอื่นๆต้องหารือกันเอง แต่ปัญหาใหญ่ในเวลานี้คือ
การก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้จะทำให้เกิดกระแสต้านทานการเคลื่อนไหวถัดไป ของกระบวนการพูดคุยหรือไม่
เพราะวางย่างก้าวกันไว้ว่า จะมีการปรึกษาหารือสาธารณะไม่ว่าทั้งโดยฝ่ายไทยและ
BRN มีคำถามว่า การเกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านการยอมให้กลุ่มบีอาร์เอ็น
“หารือสาธารณะ” ในพื้นที่ได้หรือไม่ รวมไปถึงการที่พูโลจะเข้าร่วมในอนาคต
แต่โดยรวมแล้วเชื่อว่าเรื่องเช่นนี้จะเพิ่มแรงเสียดทานให้กับการทำงานของฝ่ายรัฐบาลในการระดมเสียงสนับสนุนในเรื่องสร้างสันติภาพ
ส่วนดอน
ปาทาน นักสังเกตการณ์ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ให้ความเห็นว่า
การก่อเหตุรุนแรงของพูโลไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุยภาพรวม
แต่อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกว่าในพื้นที่ในเวลานี้ไม่ได้มีเพียงกองกำลังของ BRN ดังที่เคยเข้าใจกันเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าพูโลนั้นไม่มีกองกำลังแบบประจำการ ดอนฯ ชี้ว่า
กลุ่มบีอาร์เอ็นมีเครือข่ายกว้างขวางทั้งใน และนอกประเทศที่นักสู้ของกลุ่มจะพึ่งพิงได้
แต่พูโลไม่มี
“ผมอยากให้ดูเหตุการณ์ที่คนที่ทำงานให้พูโลสองคนในอดีตที่มีส่วนในการก่อเหตุที่รามคำแหงซอย
43/1 ในช่วงต้นปี 2556
พวกเขาถูกจับได้อย่างรวดเร็วมาก มันแสดงว่าพูโลไม่ได้มีเครือข่ายใดสนับสนุนอยู่”
แต่การที่พูโลยืนยันไม่ร่วมพูดคุย หรือเจรจาภายใต้กรอบรธน.ที่กำหนดเพดานในเรื่องบูรณภาพของดินแดนเอาไว้ชัดเจน
ก็น่าจะได้ใจกลุ่มคนเชื้อสายมลายูปาตานีจำนวนหนึ่งในพื้นที่ที่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีความหวังกับการมีรัฐอิสระอยู่…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น