วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2565

การหลั่งเลือดและชีวิตผู้บริสุทธิ์ เป็นความผิดมหันต์ในอิสลาม

 

การหลั่งเลือดและชีวิตผู้บริสุทธิ์ เป็นความผิดมหันต์ในอิสลาม 

ผู้ที่จะกระทำเยี่ยงนี้ได้ ย่อมมิใช่มุญาฮิด หรือผู้ที่ต่อสู้ ในวิถีทางแห่งอิสลาม หากเป็นเพียงฆาตกรเลือดเย็น "ด้วยเหตุ (แห่งการฆ่ากันระหว่างมนุษย์ที่นำมาแต่ความหายนะ) ดังกล่าว เรา(อัลลอฮ์) จึงได้กำหนดแก่ลูกหลานอิสรออีลว่า ผู้ใดที่ฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิชอบด้วยเหตุของการคร่าชีวิตผู้อื่น และไม่ใช่ด้วยเหตุของการก่อความเสียหายใดๆบนแผ่นดิน นั่นเสมือนว่า เขาได้ฆ่าผู้คนทั้งหมดแล้ว และผู้ใดที่ให้ชีวิต (แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง)นั่นเสมือนว่าเขาได้ให้ชีวิตแก่ผู้คนทั้งหมดแล้ว"(อัล-กุรอาน บทที่ ๕ วรรค ๓๒)

       อิบนุ อับบาส สาวกคนหนึ่งของศาสดามุฮำมัด อธิบายว่า ผู้ใดที่ฆ่าชีวิตหนึ่งที่อัลลอฮ์ห้ามไม่ให้ฆ่า ก็เท่ากับเขาได้ฆ่าผู้คนทั้งหมด ส่วนความหมายของการให้ชีวิตนั้น คือ การไม่ฆ่าชีวิตที่อัลลอฮ์ห้ามไม่ให้ฆ่า ไม่ว่าเขาจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตาม

        การหลั่งเลือดผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม การฆ่าจะได้รับการอนุมัติก็ต่อเมื่อได้ผ่านกระบวนการพิจารณาพิพากษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ยกเว้นฆาตกรหรือข้าศึก

        "และผู้ใดที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนา แน่นอนผลตอบแทนของเขา คือการทรมานในขุมนรกตลอดกาล และอัลลอฮ์ทรงพิโรธ สาปแช่งเขา และพระองค์เตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษที่ใหญ่หลวง" (อัล-กุรอาน บทที่ ๔ วรรค ๙๓)

        ท่านอับบาส กล่าวว่า ไม่มีการอภัยโทษจากอัลลอฮ์แก่ผู้ที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนา ไม่เพียงการฆ่าผู้อื่นโดยไร้เหตุผลเท่านั้น อิสลามยังห้ามฆ่าผู้ปฏิเสธที่อยู่ภายใต้สนธิสัญญาแห่งรัฐอิสลามด้วย

         การฆ่าผู้บริสุทธิ์ในห้วงเดือนรอมฎอน จึงเป็นเพียงฆาตกรรมอำพราง ที่ทำให้ผู้คนเข้าใจว่า เป็นความขัดแย้งเรื่องศาสนา และยั่วยุ ให้ตกลงไปในหลุมพรางเท่านั้น

รอมฎอน”เดือนแห่งความบริสุทธิ์ เดือนแห่งความดีงาม มุสลิมเราทุกคนปฏิบัติศาสนกิจในเดือน “รอมฎอน” นี้อย่างเคร่งครัด ตามบทบัญญัติของศาสดา ดังนั้นในเดือนรอมฎอน จึงไม่ควรที่จะมีการทำร้ายทุกรูปแบบ และเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้น เพื่อความสงบสุข และสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้บ้านเรา เพราะอิสลามไขว่คว้าสันติภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และความยุติธรรม #อินชาอัลลอฮฺ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น