วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565

จับได้แล้ว หลอนยาฆ่าเพื่อน อึ้งคนร้ายพึ่งออกมาจากคุก

 

ปัจจุบันปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นอกจากจะเกิดจากปัจจัยที่ถูกนํามาเป็นเงื่อนไขของปัญหา คือ ชาติพันธุ์ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่แล้ว ยังมีปัญหาที่เกิดจากภัยแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน การค้ามนุษย์และกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ทั้งนี้ ยาเสพติดถือเป็นหนึ่งในภัยแทรกซ้อนที่ทําให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทวีความรุนแรงขึ้น ดังเช่นกรณีเหตุยิงชาวบ้านตายที่ไม้แก่นมูลเหตุก็มาจากหลอนยาเสพติด  ขณะที่เพจต่างๆ ก็โหมกระพึบข่าวแบบมั่วๆ โหมไฟใต้ว่าเป็นการก่อเหตุของคนร้ายที่ต่อต้านแนวทางสันติวิธีการพูดคุยสันติสุขระหว่าง BRN กับรัฐไทย ในการลดความรุนแรงหยุดการปฏิบัติการทางทหารในห้วงเดือนรอมฎอน

เมื่อ 5 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 1230 มีคนร้ายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงนายแวสะแอ  แวคาเด อายุ 49 ปี กระสุนถูกศีรษะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 

ต่อมา ฉก.ทพ.44 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม้แก่น สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฯ ณ บ้านเลขที่ 189 ม.5 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่นฯ พบบุคคลต้องสงสัยคือ นายอัสมาน  มาหะมะ เป็นคนไม้แก่น และ นายรุสลาม แวสมาแอ เป็นคนนราธิวาส ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนกับผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเชิญตัวมายัง สภ.ไม้แก่น เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม สรุปผลการดำเนินกรรมวิธีซักถามดังนี้

- นายอัสมาน  มาหะมะ ให้การยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง นายแวสะมาแอฯ ในบ้านพักของ นายแวสะมาแอฯ เนื่องจากตนเองได้เสพยาเสพติด (ยาบ้า) เกิดอาการหลอนยา คิดว่านายแวสะมาแอฯ ทำของไสยศาสตร์ใส่ในกาแฟให้ตนเองดื่มหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ตนเองลงมือก่อเหตุยิงนายแวสะมาแอฯ จำนวน 1 นัด บริเวณศรีษะขณะนายแวสะมาแอฯ กำลังต้มน้ำร้อนชงกาแฟบริเวณห้องครัวหลังบ้านเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุก็ได้ชวนนายรุสลามฯ กลับบ้านพักอาศัย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 350 เมตร  และยังยอมรับว่าตนเองพึ่งออกมาจากคุกในคดียาเสพติด

- นายรุสลาม  แวสมาแอ ให้การยอมรับว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์ที่นายอัสมานฯ ลงมือก่อเหตุยิง นายแวสะมาแอฯ ซึ่งตนเองกำลังเสพยาเสพติดบริเวณภายในห้องครัวบ้านที่เกิดเหตุ ห่างจากจุดที่นายอัสมานฯ ยิง นายแวสะมาแอฯ ประมาณ 5-6 เมตร และกลับที่บ้านพักอาศัยพร้อมนายอัสมานฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น