วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2565

คุมเข้มพื้นที่ ป้องกัน ผกร.ก่อเหตุรุนแรง

 

จากสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงในห้วงที่ผ่านมาซึ่งมุ่งทำร้ายต่อ จนท.รัฐและประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม รวมถึงระบบสาธารณูปโภค เช่น เสาไฟฟ้า ถนนหนทาง การลอบยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ วางระเบิดในสถานที่สาธารณะ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและความเคลือบแคลใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ สอดคล้องกับภาพข่าวตามสื่อออนไลน์ ที่ ผกร.ต้องการแสดงศักยภาพ อำนาจการต่อรองในเวทีการพูดคุย

จากกรณีคนร้ายได้ลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 10 ต้น ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ จากการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากสารพันธุกรรม (DNA) ที่ปนเปื้อนในวัตถุพยาน พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายระดับแกนนำและระดับปฏิบัติการในพื้นที่หลายราย โดยพบประวัติและพฤติกรรมเคยก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างโชกโชน และมีหมายจับ ป.วิอาญา รวมกันหลายคดี

ทั้งนี้ การจุดตรวจ จุดสกัด pop up ในพื้นที่ เพื่อเป็นตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย, การพกพาอาวุธ, การตรวจค้นสิ่งเสพติด, การค้นย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย และตรวจสอบบุคคลภายนอกเข้ามา ควบคุมพื้นที่สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประขาชน ถือเป็นความชอบธรรมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน สกัดเสรีในการพยายามก่อเหตุ

โดย จนท.รัฐมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และความเป็นอยู่อย่างปกติสุขของพี่น้องประชาชน การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ จชต. จึงยังคงมีความจำเป็น เพื่อดูแลความสงบสุขให้พี่น้องประชาชน สถานการณ์ที่เป็นอยู่จริงในพื้นที่ตรงนี้ ยังมีการก่อเหตุ จากผู้ไม่หวังดีคอยสถานการณ์ให้เกิดความความรุนแรงในพื้นที่

การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ เป็นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกับการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขมิใช่การรบหรือสงครามแต่อย่างใด

หากพี่น้องประขาขนทุกคนร่วมมือกัน พบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว ก็สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ หรือสามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 และเบอร์สายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือจัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น