ความจำเป็น...ต้องบังคับใช้กฎหมาย
เพื่อก้าวสู่สันติสุขของประชาชน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบันนับได้ว่ายังไม่เกิดความสงบโดยแท้จริง
เนื่องจากเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในห้วงปลายปี 64 ต้นปี 65
แม้จะได้มีความพยายามจากภาครัฐในการแก้ไขปัญหาอย่างมากก็ตาม เพราะกลุ่มขบวนการก่อเหตุรุนแรงบางกลุ่มยังคงเคลื่อนไหวเตรียมการก่อเหตุและได้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม
รวมถึงทำลายระบบสาธารณูปโภคทั้งเสาไฟฟ้า ถนนหนทาง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชน
เพื่อแสดงศักยภาพของกลุ่มและทำลายความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นวิธีการจัดการความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติวิธีที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
อีกทั้งเป็นแนวทางที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นวิธีที่น่าจะมีการสูญเสียน้อยที่สุดในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พบว่าประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่สนับสนุนการพูดคุยเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่
และเห็นว่ากระบวนการพูดคุยมีผลทำให้บรรยากาศสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายงานว่าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ของรัฐบาลไทย
มีนัดพบและหารือแบบเต็มคณะกับฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ นำโดยแกนนำกลุ่ม บีอาร์เอ็น
ในวันอังคารที่ 11
ม.ค.65 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
การพบปะพูดคุยจะเป็นแบบ "เต็มคณะ" ฝ่ายรัฐบาลไทยนำโดย พล.อ.วัลลภ
รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับฝ่าย บีอาร์เอ็น
นำโดย อุสตาซฮีฟนี หรือ อุสตาซหีพนี มะเร็ะ ซึ่งใช้ชื่อมาเลย์ว่า Mr.Anas
Abdulrahman
เจ้าหน้าที่รัฐมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
และความเป็นอยู่อย่างปกติสุขของพี่น้องประชาชนในทุกรูปแบบทุกมิติ
และมองเห็นว่ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติ
พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและสนับสนุนในการจัดการพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันระหว่างภาครัฐกับผู้เห็นต่าง
และการ พูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมาก็สามารถทำให้สถานการณ์การก่อเหตุใน"พื้นที่ปลอดภัย"
หรือ Safety
Zone ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทดลองนำร่องหยุดยิง
หยุดใช้ความรุนแรง สามารถสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้จริง
ภายหลังข่าวว่า คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ของรัฐบาลไทย
มีนัดพบและหารือแบบเต็มคณะกับฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ นำโดยแกนนำกลุ่ม บีอาร์เอ็น
ในวันอังคารที่ 11 ม.ค.65 ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
การพบปะพูดคุยจะเป็นแบบ "เต็มคณะ" ฝ่ายรัฐบาลไทย ได้มีกลุ่มขบวนการก่อเหตุรุนแรงที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางสันติวิธีเคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่ได้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม
รวมถึงทำลายระบบสาธารณูปโภคทั้งเสาไฟฟ้า ถนนหนทาง และเตรียมการก่อเหตุ ในห้วงที่มีการพูดคุยสันติสุข เพื่อเป็นอำนาจในการต่อรองกับคณะพูดคุย
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายบรรยากาศของการเสริมสร้างสันติและทำร้ายผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม
หากตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลหรือบุคคลดังกล่าวตามที่พี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแส ภาครัฐจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย
จึงขอให้พี่น้องประชาชนและภาคประชาสังคมได้มีความเข้าใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายมิเช่นนั้นเราจะไม่สามารถก้าวสู่สันติสุขได้เลย
โดยภาครัฐจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายปฏิบัติตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก
และคำนึกถึงหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมกับข้อความร่วมมือจากองค์กรภาคประชาสังคมอย่าได้แทรกแซงการดำเนินการและบิดเบือนข้อมูลที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทั้งในพื้นที่
นอกพื้นที่และองค์กรอื่นๆ สับสนหรือเกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
สำหรับพี่น้องประชาชนหากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการได้กรุณาแจ้งข่าวสารให้กับภาครัฐทุกส่วนได้รับทราบโดยด่วน
“ขอให้เราทุกคนทุกกลุ่มมาร่วมสร้างสันติสุขที่บ้านเรา ผ่านกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้กันเถอะ”...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น