วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยืนยันเหตุระเบิดส่งท้ายปี 2564 เชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มเดิม พบประวัติการก่อเหตุโชกโชน

จากกรณี คนร้ายได้ลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด เมื่อ 31ธ.ค.2564 ในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 10 ต้น ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด และภายหลังเกิดเหตุได้มีการเสนอข่าว ผ่านสื่อมวลชนหลายสำนักอ้างเป็นความสำเร็จในการก่อเหตุครั้งแรก ของนักรบรุ่นใหม่ของขบวนการBRN สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างกว้างขวาง

ล่าสุดเมื่อ 6 ม.ค.2565 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเข้าทำการตรวจสอบ และเก็บกู้วัตถุระเบิดพร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากสารพันธุกรรม(DNA) ที่ปนเปื้อนในวัตถุพยาน พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายระดับแกนนำ และระดับปฏิบัติการในพื้นที่หลายรายโดยพบประวัติและพฤติกรรมเคยก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างโชกโชน และมีหมายจับป.วิอาญารวมกันหลายคดีดังนี้

1.นายนอร์ดิน หะยีอาซา อายุ 38 ปี ภูมิลำเนา 228/2 หมู่ 4 ต.ตะเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีหมายจับป.วิอาญาของศาลจังหวัดยะลา 2 หมาย ประกอบด้วย หมายจับที่ จ.339/2561 ลง 2 ส.ค.2561 เหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 5 รายพื้นที่ ต.ตะเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา เมื่อ11 มิ.ย. 2561 และหมายจับที่ จ.407/2561 ลง 12 ก.ย.2561 เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กรงปินัง เมื่อ 3 เม.ย. 2560 นอกจากนี้ยังพบประวัติและพฤติกรรมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ปี 2549-ปัจจุบัน จำนวนหลายคดีทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวก่อเหตุ และหลบหนีการจับกุม

2.นายอายุ ดอเลาะ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 38 หมู่ 4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับป.วิอาญาของศาลจังหวัดยะลา 2 หมายประกอบด้วย หมายจับที่ จส.317/2552 ลง 20 ก.ย.2552 ฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองจากกรณีเหตุใช้อาวุธปืน AK-47 ยิงพระภิกษุมรณภาพ 1 รูปและบาดเจ็บ 1 รูปเมื่อ 12 มิ.ย.2552 พื้นที่บ้านคลองทราย หมู่ 5 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา และหมายจับที จส.35/2554 ลง22ก.พ.2554 ฐานร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน จากกรณีเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติมทั้ง 2 ราย และขยายผลเครือข่ายเชื่อมโยง เพื่อติดตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากประวัติ และพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดิม ๆ ที่เคยก่อเหตุในรูปแบบต่างๆ และได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินตลอดจนได้สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นบุคคลตามหมายจับที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ประกอบกับฐานข้อมูลด้านการข่าว และการติดตามบังคับใช้กฎหมายในห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถควบคุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่พบประวัติการก่อเหตุ และสนับสนุนการก่อเหตุมาแล้วทั้งสิ้นจึงเห็นได้ว่าไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างของกลุ่มที่เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟสบุ๊ค BRN(Barisan Revolusi National)ว่า”เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จภายใต้ศักยภาพของนักรบรุ่นใหม่ ของกลุ่มขบวนการBRN แต่อย่างใด”และเมื่อติดตามเพจเฟสบุ๊ค BRN ดังกล่าว พบว่ามีพฤติกรรมเคลื่อนไหวโจมตีด้อยค่ารัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐพร้อมๆกับพยายามยกระดับความมีตัวตน และศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งได้ปลุกระดมปลุกปั่นสร้างสังคมอัตลักษณ์เชิงเดี่ยวสร้างความแตกแยก ในหมู่ประชาชนมาโดยตลอด และเป็นเพจที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยที่ผ่านมายังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดออกมา ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเพจดังกล่าว จึงเห็นว่าในปัจจุบันได้ว่ากลุ่มเครือข่ายแนวร่วมทั้งในและนอกพื้นที่ได้ใช้สื่อโซเชียล ในการเคลื่อนไหวนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ(fake news) เพื่อประโยชน์ของกลุ่มและสร้างความวุ่นวายสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ และตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และอาจตกเป็นแนวร่วมมุมกลับให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก ในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอความร่วมมือช่วยกัน ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารหากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถสอบถามโดยตรง กับเจ้าหน้าที่หรือแจ้งผ่านสายด่วน แม่ทัพภาคที่ 4 :061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

#โฆษก กอ.รมน.ภาค 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น