จากกรณี คนร้ายได้ลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด เมื่อ 31ธ.ค.2564 ในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 10 ต้น ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด และภายหลังเกิดเหตุได้มีการเสนอข่าว ผ่านสื่อมวลชนหลายสำนักอ้างเป็นความสำเร็จในการก่อเหตุครั้งแรก ของนักรบรุ่นใหม่ของขบวนการBRN สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างกว้างขวาง
ล่าสุดเมื่อ 6
ม.ค.2565 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเข้าทำการตรวจสอบ และเก็บกู้วัตถุระเบิดพร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
เพื่อขยายผลบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
โดยผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากสารพันธุกรรม(DNA) ที่ปนเปื้อนในวัตถุพยาน พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายระดับแกนนำ และระดับปฏิบัติการในพื้นที่หลายรายโดยพบประวัติและพฤติกรรมเคยก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรง
ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างโชกโชน
และมีหมายจับป.วิอาญารวมกันหลายคดีดังนี้
1.นายนอร์ดิน หะยีอาซา อายุ 38 ปี ภูมิลำเนา 228/2 หมู่ 4 ต.ตะเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
มีหมายจับป.วิอาญาของศาลจังหวัดยะลา 2 หมาย ประกอบด้วย
หมายจับที่ จ.339/2561 ลง 2 ส.ค.2561 เหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 5 รายพื้นที่ ต.ตะเนาะปูเต๊ะ
อ.บันนังสตา เมื่อ11 มิ.ย. 2561 และหมายจับที่
จ.407/2561 ลง 12 ก.ย.2561 เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กรงปินัง เมื่อ 3 เม.ย. 2560
นอกจากนี้ยังพบประวัติและพฤติกรรมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ปี
2549-ปัจจุบัน จำนวนหลายคดีทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก
ปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวก่อเหตุ และหลบหนีการจับกุม
2.นายอายุ ดอเลาะ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 38 หมู่ 4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา
พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับป.วิอาญาของศาลจังหวัดยะลา
2 หมายประกอบด้วย หมายจับที่ จส.317/2552 ลง 20 ก.ย.2552
ฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองจากกรณีเหตุใช้อาวุธปืน
AK-47 ยิงพระภิกษุมรณภาพ 1 รูปและบาดเจ็บ
1 รูปเมื่อ 12 มิ.ย.2552 พื้นที่บ้านคลองทราย หมู่ 5 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา และหมายจับที
จส.35/2554 ลง22ก.พ.2554 ฐานร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน
จากกรณีเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติมทั้ง
2 ราย และขยายผลเครือข่ายเชื่อมโยง เพื่อติดตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากประวัติ และพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดิม
ๆ ที่เคยก่อเหตุในรูปแบบต่างๆ และได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินตลอดจนได้สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
และเป็นบุคคลตามหมายจับที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ประกอบกับฐานข้อมูลด้านการข่าว
และการติดตามบังคับใช้กฎหมายในห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถควบคุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งทุกคนยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่พบประวัติการก่อเหตุ และสนับสนุนการก่อเหตุมาแล้วทั้งสิ้นจึงเห็นได้ว่าไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างของกลุ่มที่เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟสบุ๊ค
BRN(Barisan
Revolusi National)ว่า”เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จภายใต้ศักยภาพของนักรบรุ่นใหม่
ของกลุ่มขบวนการBRN แต่อย่างใด”และเมื่อติดตามเพจเฟสบุ๊ค BRN ดังกล่าว พบว่ามีพฤติกรรมเคลื่อนไหวโจมตีด้อยค่ารัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐพร้อมๆกับพยายามยกระดับความมีตัวตน
และศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
รวมทั้งได้ปลุกระดมปลุกปั่นสร้างสังคมอัตลักษณ์เชิงเดี่ยวสร้างความแตกแยก ในหมู่ประชาชนมาโดยตลอด
และเป็นเพจที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยที่ผ่านมายังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดออกมา
ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเพจดังกล่าว
จึงเห็นว่าในปัจจุบันได้ว่ากลุ่มเครือข่ายแนวร่วมทั้งในและนอกพื้นที่ได้ใช้สื่อโซเชียล
ในการเคลื่อนไหวนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ(fake news) เพื่อประโยชน์ของกลุ่มและสร้างความวุ่นวายสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างต่อเนื่อง
จึงขอให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ และตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน
เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และอาจตกเป็นแนวร่วมมุมกลับให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก
ในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอความร่วมมือช่วยกัน ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารหากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถสอบถามโดยตรง
กับเจ้าหน้าที่หรือแจ้งผ่านสายด่วน แม่ทัพภาคที่ 4 :061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#โฆษก
กอ.รมน.ภาค 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น