ความพยายามแบ่งแยกดินแดนพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของกลุ่มสุดโต่ง BRN
ความพยายามแบ่งแยกดินแดนพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของกลุ่มสุดโต่ง BRN
ที่ทำกันมาเนิ่นนาน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่าหมื่นราย
มาตลอด 21 ปีที่ผ่านมา
พยายามสร้างความแตกแยกและขัดแย้งทางศาสนา
รวมไปถึงชูอัตลักษณ์เดี่ยวมลายู ในแบบที่ไม่มีประเทศไหนต้องการ
หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย
นอกจากความพยายามที่ไม่ประสบผลสำเร็จแล้ว
ประชาชนทั่วไปยังเริ่มรู้ซึ้งถึงความชั่วร้ายของกลุ่มขบวนการ
ที่ขยายองค์กรแทรกซึมอยู่ในรัฐสภา แวดวงวิชาการ และสื่อสารมวลชน
จากการกระทำลอบสังหารผู้บริสุทธิ์ที่เป็นพลเรือน
ซ้ำร้ายยังมีประชาชนทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่มุสลิม
และพลเรือนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง แล้วจะยังคิดหรือว่า
ญาติพี่น้องเขาจะไม่โกรธแค้น และจะยังอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว
ในขณะที่เวลาพูดปลุกระดม ยุยงปลุกปั่นมาอิงศาสนาแบบเต็มสตรีม
ขณะเดียวกัน
ทั้งกลุ่มขบวนการสุดโต่ง BRN
และกลุ่มการเมือง นักวิชาการที่ถูกชักใย
ช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจาสันติภาพจนแทบจะอกแตกตาย องค์การสหประชาชาติ และ OIC
ที่รับรายงานติดตามข่าวสารในพื้นที่ จชต. ก็ยิ่งหันหลัง
และค่อยๆหายจากการสนับสนุน เพราะผิดหลักการ IHL ที่กลุ่มบุหงารายาเคยไปลงนามสนธิสัญญาเจนีวาคอล
แลกกับการให้เงินทุน และการช่วยเหลือ เพียงหวังว่า พวกกลุ่มขบวนการสุดโต่ง BRN
จะกลับใจมาเคร่งครัดในแนวทางสันติ
อยู่ในร่องในรอยตามโองการของพระผู้เป็นเจ้า หรืออย่างน้อย
การกลับตัวกลับใจจากความเป็นชัยฏอน ให้มามีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
และไม่จมอยู่กับวังวน ในยุคสมัยล่าอาณานิคมหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
กระนั้นยังไม่พอ
ความขัดแย้งของกลุ่มขบวนการ และความพยายามชิงดีชิงเด่น ของมากกว่า 2
กลุ่มแกนนำ นับตั้งแต่อุสตาซอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ เสียชีวิต
ด้วยการใช้มวลชนของตัวเองที่อ้างว่าสร้างมากับมือ
ก่อเหตุให้ประชาชนได้รับผลกระทบไม่เว้นแต่ละวัน จนไม่รู้ว่างานนี้ใครสั่งใครทำ
เวทีเสวนาก็ไม่เดินไปด้วยกัน แยกกันคุย แยกกันทำแบบคนละทิศละทาง สร้างผลกระทบกับความน่าศรัทธาที่เคยถูกกล่าวให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มนักรบปาตานี
มีอุดมการณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
และมุ่งกระทำต่อเจ้าหน้าที่ที่มีการฟัตวาแล้วว่า ได้กระทำย่ำยีหรือรังแกพี่น้องมุสลิมเท่านั้น
แต่เปล่าเลย
ในขณะที่เจ้าหน้ามี่ต่างเข้าใจและช่วยพัฒนาบ้านเมือง การฮุก่ม
คนนั้นผิดคนนั้นไม่ดี ไม่สามารถกระทำได้ถ้าเป็นเพียงแค่หัวหน้ากลุ่มเปอร์มูดอ
แต่แกนนำ 2-3 กลุ่มกลับชี้นิ้วบอกให้วัยรุ่นกระทำการที่ขัดหลักศาสนาอย่างร้ายแรง
แสดงถึงความไม่รู้ในหลักการศาสนาอิสลาม
สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงในอดีตว่าปัตตานีเคยเป็นระเบียงเมกกะ
มีอุลามะฮจำนวนมาก ที่รู้จริง
ความเปลี่ยนไปในวันนี้
ทำให้แกนนำที่กำลังแข่งขันก้าวขึ้นมาจะเป็นตัวแทนของอุสตาซอับดุลรอนิง
กับความกระหายอำนาจกำลังทำให้กลุ่มขบวนการสุดโต่ง BRN เป็นได้เพียงแค่ลัทธิ
ที่ไม่อาจนำศาสนามาอ้างได้อีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น